อโณมา ศรัณย์ศิขริน
รับสอนWorkshopเรื่องอาหาร,ออกกำลังกาย🏽Free️ตามมหาวิยาลัย,หน่วยงานรัฐบาล ติดต่องานที่เลขาฯนุสรา:087-839-7462
ของ เมจิ อโณมา
มี 1,162 คนชอบรูปนี้
-
วันนี้นอกเรื่อง ออกกำลังกาย กับอาหารเล็กน้อย partyนี้Make up เองค่ะ ใช้เวลาในการฝึกเกลี่ยสีeye shadow ไปในตัว เพราะเป็นคนเนื้อตาบนเยอะ และตาชั้นเดียว แต่งหน้าอยู่2ชั่วโมง เกลี่ยไปลบมา และได้แบบนี้ค่ะ; -
ภาพจากงาน@sherryhilton มหาราชา. Party เล่นT25ตอนเช้าท้องว่าง หน้ามืด อ่อนเพลีย แต่มีเวลาน้อยอยากออกกำลังกาย จากcomment@phassorn_arunrat ข้อเสียของคนท้องว่างก่อนออกกำลังกายคือ หน้ามืดอ่อนเพลีย เพราะ 1ร่างกายขาดอาหารในช่วงที่เรานอนหลับเป็นเวลาหลายชั่วโมง อาหารเช้าจึงจำเป็นมากที่สุด 2.ร่างกายขาดน้ำ เกลือแร่ ที่ขับออกทางปัสสะวะหลังตื่นนอน และบวกกับไปออกกำลังกายที่ต้องเสียเหงื่อมาก ร่างกายขาดSodium 3. ร่างกายขาดน้ำตาลในเลือดเพื่อให้พลังงาน การออกแบบT25 เป็นการburn cardio ที่เสียเหงื่อไปมาก ร่างกายเลยขาด เกลือแร่ และน้ำตาาล แต่ส่วนตัวเมจิเอง มักจะทานอะไรที่ให้พลังงานก่อนออกกำลังกายเสมอ เมจิเคยสังเกตุตัวเองหลังจากที่ได้เริ่มมาออกกำลังกายแบบจริงๆจังมากขึ้น เมจิเคยท้องว่างและออกกำลังกายเลย จะว่าจะเอาไขมันส่วนเกินออกมาburnให้หมด ตามที่เคยได้ยินมาว่า ท้องว่างแล้วออกกำลังกายจะburnไขมันสะสมเก่าได้ดีกว่า แต่ปรากฏว่าผลที่เมจิทำคือ ทุกครั้ง หลังออกกำลัง หน้ามืด ตาลาย ขาสั่น มือ สั่น หิวแบบแทบตะบะแตก สุดท้ายก็ตะบะแตกจนทานแบบไม่เลือก เมจิเลยฟังร่างกายตัวเองเป็นหลักมากกว่าหลักการที่เค้าว่ามา ใครจะว่าอะไร ร่างกายเรารู้ดีที่สุด เมจิเลยเปลี่ยนมาทาน พวกกลุ่มให้พลังงาน เพราะเรารู้ว่าร่างกายมื้อเช้าต้องการอาหารในการสั่งงานสมอง มื้อเช้าก่อนออกกำลังกายเมจิมีหลาย แบบquick meal เมนู. ยกตัวอย่าง ถั่วAlmond butter (สูตรจะลงในIG อีกที)ทาบนขนมปังwhole wheat 1ครึ่งแผ่น-1แผ่นราดน้ำผึ้ง ถั่วAlmond นี่คือพลังของนักกีฬาโอลิมปิคเลยค่ะ เค้าจะทานถั่วนี้ก่อนลงแข่ง ขนมปังwhole wheat ก็เป็นคาร์โบที่ให้พลังงาน ทานแบบพอดี เค้าให้พลังงานแบบพอดีค่ะ ส่วนน้ำผึ้งให้น้ำตาลในเลือดมีพลังงาน ทานแค่นี้ไม่อ้วนค่ะ เมื่อร่างกายเราได้พลังงาน เท่ากับว่าจะทำให้เราออกกำลังกายได้เพิ่มพลัง หรือเพิ่มความหนักหน่วงได้มากขึ้น เช่น วิ่งบนลู่วิ่ง ก็ลดเวลาลงเป็น15นาที แต่ปรับความชันในการวิ่งให้ชันขึ้น ยังดีกว่าวิ่งทางเรียบแต่ใช้เวลานาน burnได้มากหรือน้อยไม่ได้ขึ้นอยู่กับเวลาที่เราออก. แต่อยู่ที่ความหนักหน่วงในเวลาที่เรามีมากกว่าค่ะ ยิ่งมีเวลาน้อย ต้องเพิ่มความหนักหน่วง พอมีพลังงานจากอาหาร เราก็สามารถใช้ความหนักหน่วงมากขึ้นในเวลาอันสั้นค่ะ เท่ากับว่า ใช้พลังงานร่างกายมากขึ้น burnได้มากขึ้นนั่นเอง. ถ้าร่างกายอ่อนเพลียก็ออกกำลังกายได้เบาตามพลังงานที่เรามีค่ะ; -
มหาราชา party .; -
@plephiang commentมาว่าหายจากการออกกำลังกายไปนาน อายุมากขึ้นน้ำหนักเพิ่มขึ้น แล้วมาเริ่มเข้าgymใหม่พร้อมกับtrainner แต่รู้สึกเหนื่อยกว่าเดิม พลังงานหายไปมาก เพราะห่างหายไปนาน? Ans:ถูกต้องค่ะเมื่อคนเราอายุมากขึ้นและไม่ได้คอยออกกกำลังกายสร้ามกล้ามเนื้อให้แข็งแรงให้ พอหายไปนานแล้วมาเริ่มใหม่เท่ากับมาเริ่มนับหนึ่งใหม่ค่ะ นี่คือข้อดีสำหรับการที่เราคอยรักษากล้ามเนื้อให้แข็งแรงอยู่ตลอดเวลา ทีนี้หน้าที่เราก็คอยfit ให้firmอยู่เสมอๆ กล้ามเนื้อนอกจากจะสร้างความแข็งแรงแล้ว เค้ายังสร้างการเผาผลาญพลังงาน แม้ในวันที่เราไม่ได้ออกกำลังกายด้วย และเราทำอะไรจะไม่เหนื่อยง่าย กล้ามเนื้อยังทำหน้าที่พยุงรับน้ำหนักร่างกายคนเรา อวัยวะภายในร่างกายโครงกระดูกเราเค้ามีน้ำหนัก หากเราปล่อยให้กล้ามเนื้อหย่อยคล้อยจนอายุมาก อาจมีปัญหาข้อกระดูกเคลื่อนได้ เพราะเกิดจากไม่มีมวลกล้ามเนื้อมากพอที่จะไปรับน้ำหนักกระดูก สังเกตุผู้สูงอายุที่ไม่ได้ออกกำลังกาย เมื่ออายุมาก มักจะเดินหลังโก่ง ข้ออกระดูกเคลื่อน เพราะลำตัวเค้าไม่มีกล้ามเนื้อรองรับช่วงupper bodyนั่นเอง พอหลังโก่ง ถ้าบวกกับไขมันที่พอกพูนมาก ตรงพุง ทีนี้ปัญที่ตามมาคือโรคข้อกระดูกในส่วนต่างๆ ที่เคลื่อนยิ่งอายุมากขึ้นกล้ามเนื้อน้อยลง ระบบเผาผลาญน้อยลงตามมวลกล้ามเนื้อ ทานเท่าเดิมแต่เผาน้อยลง ไขมันพอกพูนมากขึ้น กระดูกเสื่อมลง ไม่มีกล้ามเนื้อมารองรับน้ำหนักของไขมัน และน้ำหนักกระดูก กับอวัยวะภาพใน ข้อก็เสื่อม กระดูกกลายเป็นตัวที่มาแบกน้ำหนักร่างกายแทน !!!!!เห็นรึยังคะว่าปัญหาที่เกิดจากการไม่ออกกำลังกายสร้างสร้ามเนื้อ มาเป็นโดมิโนเลย!!!! และอย่ารอตอนใกล้แก่แล้วค่อยออกกำลังกาย เพราะเมื่อถึงตอนนั้น อาจมีแรงน้อยลง. อาจมีโรคมากขึ้นค่ะ นี่คือข้อดีของการออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อที่มากกว่าแค่รูปร่างดีค่ะ ออกไว้แต่เนิ่นไว้ใช้งานตอนอายุเกษียน ทีนี้ความแข็งแรง เราก็จะได้ไม่ต้องนับหนึ่งใหม่ตอนอายุมากค่ะ; -
การแนะนำของเมจิในหลายๆสิ่ง เมจิแนะนำจากการใช้ประสบการณ์ของตัวเอง เช่นหลักการทานอาหาร และการออกกำลังกาย ใครจะนำไปใช้ก็ได้แน่นอน แต่ทุกอย่างเมจิเคยพูดเสมอว่า บางอย่างคนนี้ทำแล้วได้ผล บางอย่างคนนี้ทำไม่ได้ผล เพราะกิจกรรมในแต่ละวันของแต่ละคนต่างกันมาก บวกกับทั้งปัจจัยของอายุ เพศ ส่วนสูง น้ำหนัก โรค การออกกำลังกาย ความหนักหน่วงในการออกกำลังกายและอาการบาดเจ็บส่วนตัวของแต่ละคนไม่เหมือนกันเลยแน่นอน แต่วิธีเมจิคือเมจิจะลองสังเกตุร่างกายเป็นระยะ ๆ ที่ที่สำคัญคือต้องทำเป็นต่อเนื่องอย่างน้อยweekหรือ2wekk ถึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะเรื่องการออกกำลังกาย และการทานอาหาร บางคนทำแค่วัน2วัน แล้วก็บอกว่ายังไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลง บางคนทำๆหยุดๆ ทานขาดๆ เกินๆ ร่างกายก็เหวี่ยงขึ้นเหวี่ยงลง ซึ่งบางครั้งเมจิเองก็เป็นบ้างในบางโอกาส แต่เราก็ต้องยอมรับว่า อ้อ! วันนี้น้ำหนักขึ้นมาเพราะเมื่อวานทานอะไรไปบ้าง ยอมรับความจริง แล้วเดินหน้าเริ่มต้นต่อไป อย่ามัวแต่รู้สึกผิดกับตัวเองนานเกินไป ไม่มีประโยชน์อะไร เมื่อรู้สึกผิดแล้วก็เริ่มใหม่ ก็เท่านั้นเอง ไม่มีใครเริ่มอะไรครั้งแรก แล้วจะperfect ทุกอย่างเกิดจากการเรียนรู้ระหว่างทางในการลงมือค่ะ เมจิเองทุกวันนี้ก็ยังต้องเรียนรู้ไปเรื่อยๆค่ะ ความรู้ไม่มีวันหมด จะหมดเมื่อไม่ลงมือซักที เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังท้อแท้กับตัวเองและหมดหวังค่ะ;
-
good morning on Thursday 13/11/14ค่ะเช้านี้เมจิจะมาสอนออกกำลังกายแบบสร้างกล้ามเนื้อด้วยการใช้กำลังและแรงต้าน เพื่อสร้างกล้ามเนื้อในทุกส่วนที่สำคัญๆของน่างกาย3ส่วนที่จำเป็นต้องให้มีกล้ามเนื้อไว้เสมอ เพื่อเป็นการburnไขมันทิ้ง หากไม่มีกล้ามเนื้อเข้ามาช่วยการขจัดไขมันส่วนนั้นๆจะเป็นไปได้ยากค่ะ แม้แต่cardioเองก็ยังไม่burn ไขมันได้ไม่หมด ควรต้องสร้างกล้ามเนื้อมาช่วยด้วยค่ะ real time ****squat gym ball on the wall : ช่วยให้ต้นขาหน้า ต้นขาหลัง และก้นfit and firm (หากsqaitไม่มีgym ball อาจไปไม่ถึงก้นค่ะต้องใช้gym ballช่วย ****plank หนีบเข่าซ้าย แตะศอกขวา: upper body ทั้งกล้ามที่ลำตัวไหล่ ****rusian twist : เท้าหนีบgym ball แล้วบิดตัว ได้ทั้งabs บนสะดือ ล่างสะดือ และ ด้านข้างลำตัว (ท้านี้มีหลายoption ตามไปที่youtube:meiji Anorma ค่ะ ****ทำท่าละ15-20ครั้ง ครบ3ท่าเรียก1set ทำ3-4set แล้วแต่เวลาที่มี ใครมีเวลาน้อยทำท่านี้ทุกวันนะคะแค่10นาที ทั้งbuild ทั้งburnค่ะ ได้กล้ามเนื้อ มาเผาผลาญไขมัน *****นี่คือตัวอย่างการออกกำลังกายที่ได้total body ค่ะ ****full vod youtube:meiji Anorma มีแบบreal time10นาทีค่ะ; -
Good night ค่ะ พรุ่งนี้followมาดูว่าเมจิมีอะไรมาฝากอีกค่ะ ก่อนนอนคืนนี้ขอยิทคำพูดของบุคคลสำคัญท่านหนึ่ง คือ Walt Disney "“วิธีเริ่มทำอะไรซักอย่างหนึ่ง คือ หยุดพูด และลงมือทำ” Walt Disney (เจ้าของDisneyland ); -
อีกอย่างที่เมจิจะมีตลอดติดครัวคือCinnamon หรือผงอบเชย หรือแบบแท่งๆไว้ปรุงอาหาร ที่เมจิชอบมากมานานแล้ว แต่เมจิไปเจอมาว่าCinnamonนั้นมีส่วนช่วยในการลดระดับน้ำตาลในเลือด ตามที่เราได้รู้กันแล้วว่า น้ำตาลในเลือด ไม่จำเป็นต้องเป็นของหวาน จะเป็น แป้ง ข้าวสวย ก็คาร์โบไฮเดรต เข้าร่างกายคือน้ำตาลในเลือด เพื่อให้ร่างกายใช้เป็นพลังงาน แต่ถ้าน้ำตาลในเลือดเกิน ที่ร่างกายต้องการ เค้าก็จะเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมไว้รอบๆเอวนั่นเอง ทานพอดีคือพลังงาน ทานเกิน คือพลังงานล้นเหลือรอบเอว แต่ว่าเจ้าCinnamon เค้าจะไปชลอระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูงเกินไป เมื่อไม่สูงมากร่างกายก็ได้ค่อยๆใช้น้ำตาลในเลือดไปเป็นพลังงานแบบพอดีๆ นึกภาพ ว่าเราเปิดน้ำก็อกใส่ถัง น้ำก็อกเปรียบเป็นระดับน้ำตาลในเลือด แต่ขณะเปิดน้ำก็อก เราก็เอาขันตักน้ำออกมาสาดใส่ต้นไม้ การตักน้ำมาสาดต้นไม้เปรียบเป็นการใช้พลังงานในร่างกาย เมื่อระดับน้ำตาลในร่างกายไม่สูงมาก ร่างกายก็ไม่ต้องเปลี่ยนน้ำตาลเป็นไขมัน แต่จะรับมากน้อยแค่ไหน คงไม่ใช่100%ค่ะ ขึ้นอยู่กับการควบคุมอาหารของแต่ละคน. หากทานแบบไม่ควบคุมแป้ง น้ำตาล คาร์บเลย แล้วหวังจะใช้Cinnamonมาช่วย เหมือนทานพวกBlockแป้งแต่ทานแบบไม่ยั้ง แบบนี้เมจิว่าคงจะไม่ใช่และไม่พอแน่นอนค่ะ แล้วก็ไม่ได้ผลอีกตามเคย หลักการที่จะให้ดีคือ ทานแบบควบคุมพวกแป้งน้ำตาล คาร์บ ที่เมจิเคยบอกมาทานแต่พอดี แล้วออกกำลังกาย. และเพิ่มCinnamonในเมนูอาหาร เช่นที่เมจิทำประจำคือ กาแฟ2shot ใส่นมAlmond milk ที่ใส่เครื่องปั่นนมให้ฟู โรยผงCinnamonลงไป หรือโรยผงCinnamon บนSoup บนอาหาร หรือเทผงCinnamon1tsp ลงในน้ำอุ่น ใส่น้ำผึ้ง ผสมมะนาว ก็อร่อย แบบผงก็ทานง่ายดี ใส่ได้ในทุกเมนู โรยบนขนมปัง ไข่ โรยบนSalad เอาเป็นว่าใส่ได้ทุกเมนูเลยค่ะ แต่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีอะไรที่จะช่วยเราลดน้ำหนักได้100%เท่ากับตัวของตัวเอง ต้นเหตุของความอ้วนคือการทานคาร์บที่มากเกินไป และน้อยจนกลายเป็นyoyo (ที่ร่างกายขาดคาร์โบไฮเดรต )สิ่งที่เมจิบอกนี้เป็นเพียงการเสริมจะได้แค่10-20%หรือเลขเท่าไหร่ยังไม่มีใครบอกตัวเลขได้เป๊ะๆ แต่ก็ยังดีที่มีบ้างค่ะ ที่เหลือ คือการทานแบบเลือกทานและการออกกำลังกาย ต้วยตนเอง นั่นจริงแท้แน่นอนค่ะ sureที่สุด; -
ร่างกายที่ดีคงไม่ใช่นั่งๆนอนๆ อะไรได้มาฟรีๆบางอย่างลงทุนด้วยเงิน บางอย่างแรง บางอย่างลงทุนด้วยเวลา และความอดทน นั่งเฉยๆนอนเฉยๆ คงไม่ได้อะไร ไขมันที่พอกมานานแรมปี เลือกทานอาหารหรือออกกำลังกายเพียง2-3วัน กะว่าออกวันนี้พรุ่งนี้ผอม หรือออกกำลังกายแบบบ้าคลั่งแบบหนักหน่วง4-5ชั่วโมงในวันเดียว กะจะผอมไปอีก10ปี เป็นไปไม่ได้ค่ะ !!!!!!ถ้าทำได้เมจิทำไปนานแล้วค่ะ; -
เมจิเคยแชร์ไปแล้วว่าสิ่งที่ต้องระวังอีกอย่างสำหรับการลดน้ำหนักคือ พวกของเค็มๆ เพราะความเค็มคือsodium และพวกผงชูรส พวกนี้ทานมาก ร่างกายจะอุ้มน้ำไว้มากกว่าปกติ เพราะหากsodiumมากไป เกินร่างกายต้องการ ไตจะทำงานหนักมาก สิ่งที่ร่างกายเค้าฉลาดคือ เค้าจะรีบป้องกันตัวเองด้วยการอุ้มน้ำไว้ และคอยทำให้เรากระหายน้ำอยู่ตลอดเวลา ทั้งๆที่ดื่มจนจุกแล้ว แต่ปากคอ ยังแห้ง กระหายน้ำอยู่ ใครที่ชอบทานเค็มๆ ทานผงชูรสมากๆ และกำลังต้องการรลดน้ำหนัก ลองสังเกตุตัวเองนะคะว่านี่เป็นอีกสาเหตุรึปล่าวที่ลดพวกแป้ง น้ำตาลลงแล้ว แต่น้ำหนัก กับพุงยังป่องอยู่ โดยเฉพาะอาหารบ้านเรา อาหารอีสาน ทั้งเค็ม ทั้งชูรสสุดฝีมือ เคยสังเกตุตัวเองมั้ยคะ หลังทานพวกอาหารอีสาน จริงๆอาหารภาคนี้ เค้าไม่เน้นแป้งเลย นอกจากข้าวเหนียว กับขนมจีน มีแต่ผัก ปลา เนื้อสัตว์ แต่บางคนก็อยากลดน้ำหนักด้วยการไม่ทานข้าวเหนียว เลือกทานแต่กับ. แต่ก็งงว่าน้ำหนักกลับ เพิ่มขึ้น ? คำตอบคือ ความเค็มของอาหาร และชูรสนั่นเอง ที่เป็นตัวการทำให้ระบบในร่างกายเก็บกักน้ำไว้ในcell เป็นจำนวนมาก กว่าร้างกายจะขับน้ำออกก็ตั้งอีกประมาณ12ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น. พอร่างกายขับออก เราก็กลับไปทานเค็ม. หรือทานผงชูรสใหม่อีกทีนี้ ก็ไม่เห็นว่าน้ำหนักลงอย่างที่ต้องการ ทั้งๆที่อุตสาห์ควบคุม แป้ง น้ำตาล คาร์โบไฮเดรตมาเป็นอย่างดี พอจะได้คำตอบอีกหนึ่งปัญหาแล้วรึยังคะ? ว่าทำไม่น้ำหนัก กับพุง ไม่หายไปไหน? ลองลดความเค็ม พวกน้ำปลาลง และหากทำอาหารเองอย่าใส่ผงชูรสในอาหาร ถ้ามีโอกาส แต่การที่เราไปทานอาหารนอกบ้านนั้นเลี่ยงชูรสยากมากค่ะ แม้แต่เมจิเองก็ตาม. วิธีของเมจิคือบางครั้งพกอาหารใส่กล่องทานเอง หรือหากสั่งอาหารที่ร้านก็บอกเค้าว่าไม่ชูรส ไม่เค็ม เดี๋ยวเรามาเติมเค็มเองแบบเล็กน้อยเอง ลดเค็ม ลดชูรสดู แล้วจะเห็นความเปลี่ยนแปลงค่ะ. เมจิเข้าใจบางครั้งมันอร่อยเกินห้ามใจจริงๆค่ะ;
-
3สิ่งที่ลดพุงได้ทันตาเห็น ท่องขึ้นใจเลยนะคะ 1.ของเค็มๆ และผงชูรส เพราะร่างกายจะบวมน้ำ ดื่มน้ำจนจุกแต่ไม่ขับซะที ดื่มพุงกางเหมือนมีลูก 2.แป้ง ขาวๆ เพราะ ทานเข้าไป ร่างกายเปลี่ยนเป็นน้ำตาล และไขมัน แบบรวดเร็ว 3.ไขมันtransfat อ้วน อุดตัน ตีบตันเส้นเลือด อ้วนและอุดมไปด้วยโรค นานาชนิด 3สิ่งนี้ ต้องเลี่ยงอย่าทานเลยก็ยิ่งดี เค็มได้แต่นิดๆ ชูรสงดได้ให้งดเลย แต่ข้อ3ตัดได้ตัดเลย ไม่มีประโยชน์ มีแต่โทษ ค่ะ Good night นอนหลับฝันดี ขอให้ทุกคนมีรูปร่าง และสุขภาพกายและใจที่แข็งแรงค่ะ; -
@Thanaphatjaikawin นี่คือcomment จากสาวๆที่มาfollow เมจิแล้วนำไปปฎิบัติตามค่ะ ผลที่ได้ เค้าเห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวเองแล้ว you can it ; -
good morning Monday10/11/14ค่ะเช้านี้เมจิมาสอนบริหารแบบรวมtotalbody ด้วยการบริหารส่วนหน้าท้อง ลำตัว แบบยืน และแบบplank ค่ะ เราจะได้ใช้เวลาน้อย แต่ได้บริหารหลายกรุ๊ปของกล้ามเนื้อค่ะ หาdbหรือถุงทรายมาถือไว้ เพื่อเพิ่มความหนักในส่วนลำตัว เราจะใช้ลำตัวในการยกน้ำหนักค่ะ ****เอาน้ำหนักถือไว้ที่ศรีษะ เวลาโยกขึ้น ลง ตัวช่วงล่างนิ่งๆ โยกแต่ตัวช่วงบน ใช้ความรู้สึกว่าท้องเป็นตัวยก เราจะได้กล้ามท้องแบบท่ายืน ****วางน้ำหนักลง ทำท่าplank หลังตรงๆ เข่ามาแตะศอก ช่วงนี้เราจะได้กล้ามเนื้อส่วน ไหล่ ส่วน หน้าท้อง และส่วนด้านข้างด้วย เกร็งหน้าท้องตลอดเวลา ****full vdo youtube:meiji anorma มีแบบยาวเข้าไปดูหากไม่เข้าใจนะคะ ใครไม่มีถุงทราย ใช้db ในyoutube ของเมจิมีบอกค่ะ; -
หากวันไหนเมจิไม่มีเวลาเข้าfitness หรือออกกำลังกายที่บ้าน อย่างน้อยที่สุดที่เมจิได้ทำคือ ****sqautก่อนอาบน้ำ จนกว่าจะเมื่อยจนย่อไม่ไหว (ฟังร่างกายตัวเองเป็นหลัก)และ ****ท่าplank(ได้แกนกลางลำตัวที่fit) +push up (แขนและไหล่) ทำจนกว่าจะเมื่อยและแบบทำต่อไม่ไหว แค่นี้เราก็ได้ความfit&firmใน3ส่วนแบบช่วงรีบเร่ง ทั้งต้นขา,ลำตัว,แขน แล้วค่ะ ทุกคนต้องมีเวลาอาบน้ำ แบ่งเวลาออกมาซักเล็กน้อยบริหารนะคะ; -
หลายๆคนมีเป้าหมายในการออกกำลังกายและการเลือกทานอาหาร เพื่ออะไรบ้าง? แน่นอนคำตอบส่วนใหญ่ คืออยากจะได้รูปร่างที่ดี แต่ ยังมีประโยชน์อื่นๆอีกมากมายที่เป็นผลพลอยได้ คือลดการเป็นโรคหัวใจ เส้นเลือดตีบ คอเลสตอรอลเลวลดลง ป้องกันโรคเบาหวาน และนอกจากโรคที่ลดความเสี่ยงลงมากแล้ว เมจิได้สังเกตุตัวเองมาเป็นระยะ ในสุขภาพตัวเองคือปกติเป็นภูมิแพ้ อากาศ แพ้อาหารหมักดอง เกือบทุกชนิด อาการแพ้คือ จะคันหน้าตันในตา น้ำมูกไหล จามตลอดเวลา จนน่ารำคาญใจ แต่ตอนนี้เกือบ98%ที่อาการพวกนี้หายไป จนลืมไปเลยว่าเคยเป็นภูมิแพ้มาก่อน และนอกจากนั้นเมจิสังเกตุตัวเองดูกระฉับกระเฉงมากกว่าแต่ก่อน เมื่อก่อนทำอะไรก็เหนื่อยง่าย นอนดึก ตื่นสาย แต่ตื่นมาก็ไม่สดชื่น ทั้งๆที่นอนหลายชั่วโมง เวลามีรอบเดือนก็ปวดท้องน้อย อารมณ์ฉุนเฉียวด้วย เดี๋ยวนี้การออกกำลังกาย ทำให้เมจินอนเร็วประมาณ3ทุ่มครึ่ง หรือ4ทุ่มกว่าๆ ตื่นก็6โมงถึง6โมงครึ่ง แบบเด้งตื่นเอง พอนอนไม่ดึก ไม่เกิน4ทุ่ม ร่างกายเราก็หลัง growth hormone ออกมา ทำให้ผิวพรรณดี สดชื่นแจ่มใส ตื่นเช้าก็สดชื่น แบบไม่งัวเงีย แถมยังมีเวลามากขึ้นในหนึ่งวัน เมจิได้ทำอะไรในวันนั้นๆ ตั้งเยอะแยะ ได้มีเวลาว่างมากกว่าเดิมและมาลงข้อมูลIG แบบที่เป็นงานอดิเรก ที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเอง และยังแชร์ให้คนอื่นๆได้รู้อีกด้วย ถ้าเป็นสมัยก่อนเหรอคะ เมจิคงไม่มีอารมณ์มานั่งพิมพ์อะไรยาวๆแบบนี้ได้ทุกวันหรอกค่ะ เพราะสมองไม่ปลอดโปล่ง ไม่กระฉับกระเฉง และเรื่องการย่อยอาหาร ระบบเผาผลาญก็รู้สึกดีขึ้นมาก เพราะเราออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง เลือกทานคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลแบบพอดี ไม่มากเกินไปน้อยเกินไป เหมือนแต่ก่อน ถ้าสมัยก่อน pizzaเมจิทานคนเดียวหนึ่งถาดเลยนะคะ สมัยนี้แค่slice 2 slice ก็พอแล้วค่ะ นานๆทานที น้ำหนักเลย รักษาได้ แบบไม่เด้งขึ้น และเมจิรู้สึกว่า คุ้มค่ามากกับผลที่ได้จากการลงทุน ลงแรงในการออกกำลังกาย และเลือกทานอาหาร แม้กว่าจะใช้เวลาสักหน่อย เมจิดีใจที่ตนเองค้นพบทางสว่างของสุขภาพและรูปร่างที่ดีค่ะ แบ่งเวลาออกกำลังกายบ้าง สังสรรค์เฮฮากับเพือนบ้าง หาตรงกลางของhappiness ให้เจอแล้วจะมีความสุข แบบไม่สุดโต่งแบบเคร่งเกินไปแบบควบคุมจนเครียด หรือสนุกเกินควรจนไม่มีเวลาดูแลสุขภาพตัวเองนะคะ;
Instagram is a registered trademark of Instagram, inc.