อโณมา ศรัณย์ศิขริน
รับสอนWorkshopเรื่องอาหาร,ออกกำลังกาย🏽Free️ตามมหาวิยาลัย,หน่วยงานรัฐบาล ติดต่องานที่เลขาฯนุสรา:087-839-7462
ของ เมจิ อโณมา
มี 746 คนชอบรูปนี้
-
อีกอย่างที่เมจิจะมีตลอดติดครัวคือCinnamon หรือผงอบเชย หรือแบบแท่งๆไว้ปรุงอาหาร ที่เมจิชอบมากมานานแล้ว แต่เมจิไปเจอมาว่าCinnamonนั้นมีส่วนช่วยในการลดระดับน้ำตาลในเลือด ตามที่เราได้รู้กันแล้วว่า น้ำตาลในเลือด ไม่จำเป็นต้องเป็นของหวาน จะเป็น แป้ง ข้าวสวย ก็คาร์โบไฮเดรต เข้าร่างกายคือน้ำตาลในเลือด เพื่อให้ร่างกายใช้เป็นพลังงาน แต่ถ้าน้ำตาลในเลือดเกิน ที่ร่างกายต้องการ เค้าก็จะเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมไว้รอบๆเอวนั่นเอง ทานพอดีคือพลังงาน ทานเกิน คือพลังงานล้นเหลือรอบเอว แต่ว่าเจ้าCinnamon เค้าจะไปชลอระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูงเกินไป เมื่อไม่สูงมากร่างกายก็ได้ค่อยๆใช้น้ำตาลในเลือดไปเป็นพลังงานแบบพอดีๆ นึกภาพ ว่าเราเปิดน้ำก็อกใส่ถัง น้ำก็อกเปรียบเป็นระดับน้ำตาลในเลือด แต่ขณะเปิดน้ำก็อก เราก็เอาขันตักน้ำออกมาสาดใส่ต้นไม้ การตักน้ำมาสาดต้นไม้เปรียบเป็นการใช้พลังงานในร่างกาย เมื่อระดับน้ำตาลในร่างกายไม่สูงมาก ร่างกายก็ไม่ต้องเปลี่ยนน้ำตาลเป็นไขมัน แต่จะรับมากน้อยแค่ไหน คงไม่ใช่100%ค่ะ ขึ้นอยู่กับการควบคุมอาหารของแต่ละคน. หากทานแบบไม่ควบคุมแป้ง น้ำตาล คาร์บเลย แล้วหวังจะใช้Cinnamonมาช่วย เหมือนทานพวกBlockแป้งแต่ทานแบบไม่ยั้ง แบบนี้เมจิว่าคงจะไม่ใช่และไม่พอแน่นอนค่ะ แล้วก็ไม่ได้ผลอีกตามเคย หลักการที่จะให้ดีคือ ทานแบบควบคุมพวกแป้งน้ำตาล คาร์บ ที่เมจิเคยบอกมาทานแต่พอดี แล้วออกกำลังกาย. และเพิ่มCinnamonในเมนูอาหาร เช่นที่เมจิทำประจำคือ กาแฟ2shot ใส่นมAlmond milk ที่ใส่เครื่องปั่นนมให้ฟู โรยผงCinnamonลงไป หรือโรยผงCinnamon บนSoup บนอาหาร หรือเทผงCinnamon1tsp ลงในน้ำอุ่น ใส่น้ำผึ้ง ผสมมะนาว ก็อร่อย แบบผงก็ทานง่ายดี ใส่ได้ในทุกเมนู โรยบนขนมปัง ไข่ โรยบนSalad เอาเป็นว่าใส่ได้ทุกเมนูเลยค่ะ แต่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีอะไรที่จะช่วยเราลดน้ำหนักได้100%เท่ากับตัวของตัวเอง ต้นเหตุของความอ้วนคือการทานคาร์บที่มากเกินไป และน้อยจนกลายเป็นyoyo (ที่ร่างกายขาดคาร์โบไฮเดรต )สิ่งที่เมจิบอกนี้เป็นเพียงการเสริมจะได้แค่10-20%หรือเลขเท่าไหร่ยังไม่มีใครบอกตัวเลขได้เป๊ะๆ แต่ก็ยังดีที่มีบ้างค่ะ ที่เหลือ คือการทานแบบเลือกทานและการออกกำลังกาย ต้วยตนเอง นั่นจริงแท้แน่นอนค่ะ sureที่สุด; -
ร่างกายที่ดีคงไม่ใช่นั่งๆนอนๆ อะไรได้มาฟรีๆบางอย่างลงทุนด้วยเงิน บางอย่างแรง บางอย่างลงทุนด้วยเวลา และความอดทน นั่งเฉยๆนอนเฉยๆ คงไม่ได้อะไร ไขมันที่พอกมานานแรมปี เลือกทานอาหารหรือออกกำลังกายเพียง2-3วัน กะว่าออกวันนี้พรุ่งนี้ผอม หรือออกกำลังกายแบบบ้าคลั่งแบบหนักหน่วง4-5ชั่วโมงในวันเดียว กะจะผอมไปอีก10ปี เป็นไปไม่ได้ค่ะ !!!!!!ถ้าทำได้เมจิทำไปนานแล้วค่ะ; -
เมจิเคยแชร์ไปแล้วว่าสิ่งที่ต้องระวังอีกอย่างสำหรับการลดน้ำหนักคือ พวกของเค็มๆ เพราะความเค็มคือsodium และพวกผงชูรส พวกนี้ทานมาก ร่างกายจะอุ้มน้ำไว้มากกว่าปกติ เพราะหากsodiumมากไป เกินร่างกายต้องการ ไตจะทำงานหนักมาก สิ่งที่ร่างกายเค้าฉลาดคือ เค้าจะรีบป้องกันตัวเองด้วยการอุ้มน้ำไว้ และคอยทำให้เรากระหายน้ำอยู่ตลอดเวลา ทั้งๆที่ดื่มจนจุกแล้ว แต่ปากคอ ยังแห้ง กระหายน้ำอยู่ ใครที่ชอบทานเค็มๆ ทานผงชูรสมากๆ และกำลังต้องการรลดน้ำหนัก ลองสังเกตุตัวเองนะคะว่านี่เป็นอีกสาเหตุรึปล่าวที่ลดพวกแป้ง น้ำตาลลงแล้ว แต่น้ำหนัก กับพุงยังป่องอยู่ โดยเฉพาะอาหารบ้านเรา อาหารอีสาน ทั้งเค็ม ทั้งชูรสสุดฝีมือ เคยสังเกตุตัวเองมั้ยคะ หลังทานพวกอาหารอีสาน จริงๆอาหารภาคนี้ เค้าไม่เน้นแป้งเลย นอกจากข้าวเหนียว กับขนมจีน มีแต่ผัก ปลา เนื้อสัตว์ แต่บางคนก็อยากลดน้ำหนักด้วยการไม่ทานข้าวเหนียว เลือกทานแต่กับ. แต่ก็งงว่าน้ำหนักกลับ เพิ่มขึ้น ? คำตอบคือ ความเค็มของอาหาร และชูรสนั่นเอง ที่เป็นตัวการทำให้ระบบในร่างกายเก็บกักน้ำไว้ในcell เป็นจำนวนมาก กว่าร้างกายจะขับน้ำออกก็ตั้งอีกประมาณ12ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น. พอร่างกายขับออก เราก็กลับไปทานเค็ม. หรือทานผงชูรสใหม่อีกทีนี้ ก็ไม่เห็นว่าน้ำหนักลงอย่างที่ต้องการ ทั้งๆที่อุตสาห์ควบคุม แป้ง น้ำตาล คาร์โบไฮเดรตมาเป็นอย่างดี พอจะได้คำตอบอีกหนึ่งปัญหาแล้วรึยังคะ? ว่าทำไม่น้ำหนัก กับพุง ไม่หายไปไหน? ลองลดความเค็ม พวกน้ำปลาลง และหากทำอาหารเองอย่าใส่ผงชูรสในอาหาร ถ้ามีโอกาส แต่การที่เราไปทานอาหารนอกบ้านนั้นเลี่ยงชูรสยากมากค่ะ แม้แต่เมจิเองก็ตาม. วิธีของเมจิคือบางครั้งพกอาหารใส่กล่องทานเอง หรือหากสั่งอาหารที่ร้านก็บอกเค้าว่าไม่ชูรส ไม่เค็ม เดี๋ยวเรามาเติมเค็มเองแบบเล็กน้อยเอง ลดเค็ม ลดชูรสดู แล้วจะเห็นความเปลี่ยนแปลงค่ะ. เมจิเข้าใจบางครั้งมันอร่อยเกินห้ามใจจริงๆค่ะ; -
3สิ่งที่ลดพุงได้ทันตาเห็น ท่องขึ้นใจเลยนะคะ 1.ของเค็มๆ และผงชูรส เพราะร่างกายจะบวมน้ำ ดื่มน้ำจนจุกแต่ไม่ขับซะที ดื่มพุงกางเหมือนมีลูก 2.แป้ง ขาวๆ เพราะ ทานเข้าไป ร่างกายเปลี่ยนเป็นน้ำตาล และไขมัน แบบรวดเร็ว 3.ไขมันtransfat อ้วน อุดตัน ตีบตันเส้นเลือด อ้วนและอุดมไปด้วยโรค นานาชนิด 3สิ่งนี้ ต้องเลี่ยงอย่าทานเลยก็ยิ่งดี เค็มได้แต่นิดๆ ชูรสงดได้ให้งดเลย แต่ข้อ3ตัดได้ตัดเลย ไม่มีประโยชน์ มีแต่โทษ ค่ะ Good night นอนหลับฝันดี ขอให้ทุกคนมีรูปร่าง และสุขภาพกายและใจที่แข็งแรงค่ะ; -
@Thanaphatjaikawin นี่คือcomment จากสาวๆที่มาfollow เมจิแล้วนำไปปฎิบัติตามค่ะ ผลที่ได้ เค้าเห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวเองแล้ว you can it ;
-
good morning Monday10/11/14ค่ะเช้านี้เมจิมาสอนบริหารแบบรวมtotalbody ด้วยการบริหารส่วนหน้าท้อง ลำตัว แบบยืน และแบบplank ค่ะ เราจะได้ใช้เวลาน้อย แต่ได้บริหารหลายกรุ๊ปของกล้ามเนื้อค่ะ หาdbหรือถุงทรายมาถือไว้ เพื่อเพิ่มความหนักในส่วนลำตัว เราจะใช้ลำตัวในการยกน้ำหนักค่ะ ****เอาน้ำหนักถือไว้ที่ศรีษะ เวลาโยกขึ้น ลง ตัวช่วงล่างนิ่งๆ โยกแต่ตัวช่วงบน ใช้ความรู้สึกว่าท้องเป็นตัวยก เราจะได้กล้ามท้องแบบท่ายืน ****วางน้ำหนักลง ทำท่าplank หลังตรงๆ เข่ามาแตะศอก ช่วงนี้เราจะได้กล้ามเนื้อส่วน ไหล่ ส่วน หน้าท้อง และส่วนด้านข้างด้วย เกร็งหน้าท้องตลอดเวลา ****full vdo youtube:meiji anorma มีแบบยาวเข้าไปดูหากไม่เข้าใจนะคะ ใครไม่มีถุงทราย ใช้db ในyoutube ของเมจิมีบอกค่ะ; -
หากวันไหนเมจิไม่มีเวลาเข้าfitness หรือออกกำลังกายที่บ้าน อย่างน้อยที่สุดที่เมจิได้ทำคือ ****sqautก่อนอาบน้ำ จนกว่าจะเมื่อยจนย่อไม่ไหว (ฟังร่างกายตัวเองเป็นหลัก)และ ****ท่าplank(ได้แกนกลางลำตัวที่fit) +push up (แขนและไหล่) ทำจนกว่าจะเมื่อยและแบบทำต่อไม่ไหว แค่นี้เราก็ได้ความfit&firmใน3ส่วนแบบช่วงรีบเร่ง ทั้งต้นขา,ลำตัว,แขน แล้วค่ะ ทุกคนต้องมีเวลาอาบน้ำ แบ่งเวลาออกมาซักเล็กน้อยบริหารนะคะ; -
หลายๆคนมีเป้าหมายในการออกกำลังกายและการเลือกทานอาหาร เพื่ออะไรบ้าง? แน่นอนคำตอบส่วนใหญ่ คืออยากจะได้รูปร่างที่ดี แต่ ยังมีประโยชน์อื่นๆอีกมากมายที่เป็นผลพลอยได้ คือลดการเป็นโรคหัวใจ เส้นเลือดตีบ คอเลสตอรอลเลวลดลง ป้องกันโรคเบาหวาน และนอกจากโรคที่ลดความเสี่ยงลงมากแล้ว เมจิได้สังเกตุตัวเองมาเป็นระยะ ในสุขภาพตัวเองคือปกติเป็นภูมิแพ้ อากาศ แพ้อาหารหมักดอง เกือบทุกชนิด อาการแพ้คือ จะคันหน้าตันในตา น้ำมูกไหล จามตลอดเวลา จนน่ารำคาญใจ แต่ตอนนี้เกือบ98%ที่อาการพวกนี้หายไป จนลืมไปเลยว่าเคยเป็นภูมิแพ้มาก่อน และนอกจากนั้นเมจิสังเกตุตัวเองดูกระฉับกระเฉงมากกว่าแต่ก่อน เมื่อก่อนทำอะไรก็เหนื่อยง่าย นอนดึก ตื่นสาย แต่ตื่นมาก็ไม่สดชื่น ทั้งๆที่นอนหลายชั่วโมง เวลามีรอบเดือนก็ปวดท้องน้อย อารมณ์ฉุนเฉียวด้วย เดี๋ยวนี้การออกกำลังกาย ทำให้เมจินอนเร็วประมาณ3ทุ่มครึ่ง หรือ4ทุ่มกว่าๆ ตื่นก็6โมงถึง6โมงครึ่ง แบบเด้งตื่นเอง พอนอนไม่ดึก ไม่เกิน4ทุ่ม ร่างกายเราก็หลัง growth hormone ออกมา ทำให้ผิวพรรณดี สดชื่นแจ่มใส ตื่นเช้าก็สดชื่น แบบไม่งัวเงีย แถมยังมีเวลามากขึ้นในหนึ่งวัน เมจิได้ทำอะไรในวันนั้นๆ ตั้งเยอะแยะ ได้มีเวลาว่างมากกว่าเดิมและมาลงข้อมูลIG แบบที่เป็นงานอดิเรก ที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเอง และยังแชร์ให้คนอื่นๆได้รู้อีกด้วย ถ้าเป็นสมัยก่อนเหรอคะ เมจิคงไม่มีอารมณ์มานั่งพิมพ์อะไรยาวๆแบบนี้ได้ทุกวันหรอกค่ะ เพราะสมองไม่ปลอดโปล่ง ไม่กระฉับกระเฉง และเรื่องการย่อยอาหาร ระบบเผาผลาญก็รู้สึกดีขึ้นมาก เพราะเราออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง เลือกทานคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลแบบพอดี ไม่มากเกินไปน้อยเกินไป เหมือนแต่ก่อน ถ้าสมัยก่อน pizzaเมจิทานคนเดียวหนึ่งถาดเลยนะคะ สมัยนี้แค่slice 2 slice ก็พอแล้วค่ะ นานๆทานที น้ำหนักเลย รักษาได้ แบบไม่เด้งขึ้น และเมจิรู้สึกว่า คุ้มค่ามากกับผลที่ได้จากการลงทุน ลงแรงในการออกกำลังกาย และเลือกทานอาหาร แม้กว่าจะใช้เวลาสักหน่อย เมจิดีใจที่ตนเองค้นพบทางสว่างของสุขภาพและรูปร่างที่ดีค่ะ แบ่งเวลาออกกำลังกายบ้าง สังสรรค์เฮฮากับเพือนบ้าง หาตรงกลางของhappiness ให้เจอแล้วจะมีความสุข แบบไม่สุดโต่งแบบเคร่งเกินไปแบบควบคุมจนเครียด หรือสนุกเกินควรจนไม่มีเวลาดูแลสุขภาพตัวเองนะคะ; -
มีภาพสวยๆจากงานแต้งงาน Anissa&Tod มาฝากอีกค่ะ พรุ่งนี้เมจิมีอะไรต่อ คอยfollow กันนะคะ.good night ขอให้นอนหลับก็หลับสบาย ยามตื่นก็ขอให้สดชื่นเบิกบานกันทุกคนนะคะ ; -
Good morning on Saturday ค่ะ breakfast menu วันนี้ ง่ายๆ ถั่วแมคาเดเมีนปั่นด้วยเครื่องปั่นอาหารshareวิธีทำไปแล้วไล่ดูได้ค่ะ ทาบนขนมปังwhole wheat ราดด้วยน้ำผึ้งเล็กน้อย ทานกับallpleเขียว ประโยชน์ของถั่วคือให้โปรตีน และถั่วแมคาเดเมีย ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง เหมาฝะสำหรับนักออกกำลังกายอย่างพวกเรา ทีไขมันดีที่ให้พลังงาน แต่ไม่อ้วน ไขมันดีสามารถลดคอเรลตอรอลเลว เพิ่มคอเลสตอรอลดีในร่างกาย หลักการทานถั่วให้ได้ประโยชน์คือ ทานกับผลไม้ค่ะ เค้าจะดูดซึมด้วยกันดีมากค่ะ;
-
Going to wedding.; -
อาหารกลางวันวันนี้ค่ะ ข้าวสีนิลผัดกระเทียมพริกไทย ****ใส่ไข่ไก่3ใบ *****เพิ่มผักโขม ****หมูไม่ติดมัน ****กระเทียม, พริก,พริกไทย ****ผัดรวมกันให้หมด *****ไข่ไก่3ใบให้โปรตีน ประมาณ15g หมูไม่ติดมัน ก็ให้โปรตีนประมาณ10กรัม ****เห็นมั้นคะเน้นโปรตีน มากกว่าคาร์บ. แล้วจะอ้วนได้ยังไง ยิ่งออกกำลังกายด้วย เพิ่มพลังเข้าไปอีก ค่ะ; -
good morning Friday 7/11/14ค่ะเช้านี้เรามาออกกำลังกายช่วงlower body กับอีกแบบเมจิไปหาvdoเดิมที่เคยสอนไปแล้วมาสาธิตการออกกำลังกายช่วงต้นขาสำหรับคนที่เข่าไม่ดี หรือน้ำหนักมากเกินไปที่จะทำsquat ได้ ****หาmat yogaมารองเข่าไว้ด้วยก็ดีค่ะ ****หาน้ำหนักมาถ่วงที่ขาต้อง!เป็นถ้วงที่ช่วงท่อนต้นขานะคะอย่าถ่วงเลยเข่าลงไปเดี๋ยวเข่ารับน้ำหนักค่ะ ****เวลายกตัวนิ่งๆอย่าแอ่นหลังบังคับหลังตรงๆ *****งอเข่า ยกขึ้น ลง จะได้ความเมื่อที่ก้น และต้นขาค่ะ ****ทำข้างละ1นาทีพัก10วินาที ซ้าย ขวา เรียกว่า1set ค่ะ ****ทำ3set *****tips:หาน้ำหนักdbมาถ่วงจำทำให้firmเร็วมากขึ้นค่ะ; -
Happy Loy Kratong ค่ะ คืนนี้ขอออกไปลอยกระทงกับสามี และเป็นวันAnniversary ครบรอบวันที่เราสองคนได้รู้จักกันด้วยค่ะ good night ค่ะ; -
อีกเรื่องที่ควรระวังคือพวกyogurtที่เขียนนว่าlowfat หรือไขมันต่ำ แล้วคิดว่าทานแล้วไม่อ้วน ถ้าเจอคำนี้เมจิขอแนะนำกันพลาดนะคะ เมื่อหยิบมาแล้วพลิกไปดูตรงข้อมูลสารอาหารหน่อยค่ะ ตรงคำว่า คาร์โบไฮเดรต (carbohydrate)กับน้ำตาล(sugar) ว่ามีกี่กรัมต่อserve ในถ้วยนั้น หากตัวเลขเกินอย่างละ20กรัมขึ้นไป สำหรับเมจิเอง จะไม่ทานค่ะ เพราะร่างกายเราปกติควรได้รับน้ำตาลต่อวันไม่ควร20-24กรัม(โดยประมาณ) แล้วไหนจะน้ำตาล คาร์โบไฮเดรตที่เราทานอย่างอื่นๆในวันนั้นอีก เช่น ผัก ผลไม้ ถั่ว ข้าว แอลกอฮอล์ พวกนี้มีทั้งน้ำตาล และคาร์โบไฮเดรตแทบทั้งสิ้น ซึ่งเป็นปริมาณกรัมที่เรากะแบบเป๊ะๆก็ลำบาก ด้วยสายตา เพราะyogurtเขียนว่า low fat ก็จริง แต่ด้วยความที่เค้ากลัวรสชาติจะไม่อร่อยเลยใส่ปรุงรสด้วยน้ำตาล กับคาร์โบไฮเดรต มากก็อ้วนนะคะ โดยเฉพาะพวกyogurtที่มาพร้อมกับผลไม้ นี่ยิ่งไปใหญ่เลยค่ะ หลายๆคนมักเข้าใจผิดว่าทานyogurt นมเปรี้ยวที่low fat จะไม่อ้วน จริงๆแล้วก็เป็นเพียงกลยุทธทางการตลาดโฆษณา ว่าไขมันต่ำ แต่ก็ต่ำจริงค่ะตามเค้าว่า แต่จะให้perfect ควรมีน้ำตาล กับคาร์โบไฮเดรต ต่ำด้วย ถ้าสำหรับเมจิเอง เมจิจะเลือกทานyogurt ที่คาร์โบไฮเดรต กับน้ำตาล อย่างละไม่เกินเลขหลักสิบค่ะ เมจิถึงจะทาน ซึ่งปกติธรรมชาติของyogurt ถ้าไม่ปรุงรสให้หวาน แต่งกลิ่น รสชาติจะไม่ค่อยอร่อย ทานยาก และบางยี่ห้อเค้าก็ใส่แป้งผสมลงไปด้วย ซึ่งนั่นคือมีคาร์โบไฮเดรตสูงเพราะแป้งนั่นเองค่ะ หากต้องการทานyogurtจริงๆ เมจิแนะนำแบบyogurt100% แบบไม่ได้ผสมผลไม้ที่แต่งรสชาติมาเลย แล้วเรามาใส่ผลไม้ที่เราชอบเองแบบสดๆจะดีกว่า เพราะผลไม้ที่ผสมในyogurt แน่นอน เค้าแต่งสีแต่งกลิ่น ใส่สารกันบูด เพราะเค้ากลัวผลไม้ที่มากับyogurtเน่านั่นแหละค่ะ แล้วคุณแน่ใจได้ยังไงว่าคุณได้สารอาหารจากผลไม้ในyogurtจริงๆ สุดท้ายก็กลายเป็นทานjunk food ที่ทานแล้วอ้วน low fat แต่ได้น้ำตาลสูงก็ไม่ควรเช่นกันค่ะ สู้ทานเองแบบสดๆมาหั่นใส่เองจะยังดีซะกว่าค่ะ;
Instagram is a registered trademark of Instagram, inc.