โพสต์เมื่อ 30 มี.ค. 2558 | 20:40 น.
อโณมา ศรัณย์ศิขริน
รับสอนWorkshopเรื่องอาหาร,ออกกำลังกาย🏽Free️ตามมหาวิยาลัย,หน่วยงานรัฐบาล ติดต่องานที่เลขาฯนุสรา:087-839-7462
ของ เมจิ อโณมา
มี 2,038 คนชอบรูปนี้
-
ต่อจากเมื่อวานว่าถ้าเราต้องการลดน้ำตาลที่เกินต่อวันแต่เกิดอาการอยากน้ำตาลอยู่พี่เมจิทำยังไงคะใครพึ่งfollow ตามไล่อ่านที่ผ่านๆมานะคะ เมจิน้ำตาลจากผลไม้แทนขนมหวานหรือน้ำหวาน เพราะผลไม้แทบทุกชนิดไม่ว่าเปรี้ยวหรือหวานก็มีทั้งน้ำตาลและคาร์บทั้งสิ้นค่ะไม่เฉพาะแป้งข้าวขนมปังอย่างเดียวที่มี แต่เมจิก็ทานผลไม้ที่ไม่หวานเกินไป เช่นกีวี่ แก้วมังกร ชมฟู่ หรือ ฝรั่งพวกstrawbery หรือผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวมากกว่าหวาน พวกนี้เราก็ได้น้ำตาลเข้าร่างกายแต่ว่าเค้ามีอย่างอื่นด้วย เช่นวิตามินแร่ธาตุต่างๆ กากใย ผสมอยู่ เราเลยไม่ได้เฉพาะน้ำตาลหรือคาร์บแบบตรงๆ น้ำตาลในเลือดเลยขึ้นช้าๆ ผลคือการเปลี่ยนเป็นไขมันก็จะช้าลง เพราะบางทีเราทานไปด้วย เผาพลังงานจากการเดินไปเดินมา เท่ากับพลังงานให้น้ำตาลไปด้วยแต่ก็ใช้พลังงานไปด้วย การสะสมไขมันเลยช้าค่ะ พวกผลไม้เมจิมักทานกลางวัน เพราะทานไปได้ใช้พลังงานน้ำตาลในผลไม้ไปในตัว แต่ยังไงก็แลัวแต่น้ำตาลในผลไม้ทานมากเกินก็ไขมันสะสมได้ค่ะ แต่ในบางคนถ้ารู้สึกว่าแขนขาอ่อนแรง เพลีย เวียนหัว อาจเพราะน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไป เมจิเคยเป็นค่ะ เช่นออกกำลังกายแบบบ้าพลังไปหน่อยรู้สึกเพลีย เมจิจะทานchocolate บางทีเมจิมีkitkatแบบแท่งๆ มาทานซัก1แท่ง แต่ปัญหาคนส่วนใหญ่มันเริ่ม1แท่ง มักไปจบที่234567........แท่งจริงมั่ยคะถึงบอกไงคะว่าหากเราทานแบบมีสติ ไขมันจะไม่เกิดเพราะเราควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ หรือเมจิจะเอาผลไม้ไปแช่แข็ง แล้วมาปั่นดื่มกับwhey protein smooties เพราะทำให้เราได้ทั้งโปรตีนและความหวานทึ่ไม่มากเกินไป ค่ะ บางคนบ่นว่ายากจัง ใช่ค่ะหากไม่ฝึกเปลี่ยนนิสัยการทาน ง่ายค่ะถ้าเราทำได้และได้ทำจนสำเร็จ ต้นเหตุคือการเปลี่ยนนิสัย Eatting Habbit ของตัวเองหมั่นฝึกฝน เรามาพูดถึงการเปลี่ยนนิสัยเราต้องอดทนใช้เวลา อย่าใจร้อน ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆหากไม่ฝึกฝนค่ะ นักกีฬาหรือคนที่ประสบความสำเร็จ เค้าใช้วินัยรู้จักการฝึกฝน ลองผิดลองถูก เค้าถึงสำเร็จเพราะเค้าได้ทำมันเรียนรู้มันด้วยตัวเองค่ะ คุณเองก็เช่นกันค่ะ; -
ตามองค์การอนามัยโลกได้ประกาศว่าร่างกายมนุษย์โดยทั่วๆไปเราควรได้น้ำตาลไม่เกินวันละ40-60กรัม หรือ12-15ช้อนชาต่อวันค่ะ ลองนึกดูนะคะว่าวันๆนึงคุณทานเกินมั้ย พรุ่งนี้มาต่อว่าหากมีอาการอยากน้ำตาลเมจิทานแบบไหน️ที่ไม่ให้มากเกินไปค่ะ'️; -
Question ถ้าเวลาที่เราพยายามตัดพวกน้ำตาลลง หรือพวกของหวานลง หากมีอาการอยากทานน้ำตาล กลับมาอีกพี่เมจิทำยังไงเพื่อไม่ให้ทานน้ำตาลสูงเกินไปที่ร่างกายต้องการต่อวัน ค่อยปรับปริมาณทานข้าวลง เช่นทานข้าวหลายๆจานต่อมื้อก็เหลือเท่ากำปั้นตัวเอง ถ้าไม่อิ่ม เพิ่มกับ เช่นผัก หรือเนื้อไม่ติดมันมาทานเพิ่ม อย่าทานอาหารเค็มจัดเพราะทำให้อยากทานข้าวเยอะขึ้น ทานมื้อหลักๆให้อิ่มครบ3มื้อ เช้ากลางวันเย็น ห้ามอดอาหาร หรือทานแบบกะมิดกะเมี้ยนเพราะกลัวอ้วน เพราะหากคุณทานแบบอดๆหิวๆโดยที่ท้องไม่อิ่ม คุณจะสามารถทำได้แค่ไม่ถึงweek เพราะมันทรมาน สุดท้ายกลับมาทานแบบตบะแตกแบบไม่ยั้งคิดเพราะเก็บกดมาหลายมื้อ นี่คือเรื่องปกติของทุกคนค่ะ เมจิเคยเป็น ️ใครเคยติดไอศครีมทานทีหลายๆลูกปรับเหลือลูกเดียวต่อวันก่อน ไม่ใส่วีปครีม ใส่toppingแบบเต็มๆ เพราะจะได้ทั้งไขมันที่เกิน น้ำตาล คาร์บ ที่เกินแค่ถ้วยที่คุณจัดแบบเต็มพลังมันเกินพลังงานใน1มื้อแล้ว ไหนจะมื้ออื่นๆที่เหลืออีก เพราะจริงๆร่างกายเราต้องการน้ำตาลต่อวันแค่ไอศครีม1ลูกยังถือว่าเกินร่างกายต้องการ ยิ่งคนที่ทำงานนั่งofficeเช้าถึงเย็น และไม่ได้ออกกำลังกายถือว่าเกินแล้วค่ะ เมจิถ้าจะทานไอศครีม เมจิจะทานสัปดาห์ละครั้งหรือ2ครั้ง พอนานๆทานที ร่างกายเลยเผาออกไปใช้งานทันค่ะ ️เมจิจะทานขนมปังหรือคาร์บก่อนออกกำลังกาย30นาที เช่นwhole wheat ทาpeanutbutter ราดน้ำผึ้ง1ชช. ทานข้าวมีสีเท่า1กำปั้นในมื้อกลางวัน มื้อเย็นหลัง6โมงไม่ทานคาร์บเลย แต่ทานพวกปลา ไข่ อะไรแบบนี้เพราะย่อยง่ายและเดี๋ยวก็นอนแล้ว ถ้าหิวก็ดื่มโกโก้ร้อน ผสมนมAlmond milk ดื่ม หาsnackที่เป็นโปรตีนfiber เช่นเมจิจะทานพวกถั่วAlmond ถั่วลิลง yogurtรสธรรมชาติไม่ใส่อะไรเลยแลัวมาใส่ความหวานเองจะควบคุมน้ำตาลง่ายกว่าที่ผสมมาแล้ว เราจะได้โปรตีนจะช่วยให้อิ่มท้องเร็วกว่าพวกน้ำตาล และในถั่วมีคาร์บที่เข้าร่างกายย่อยแล้วไปเปลี่ยนเป็นน้ำตาลในเลือดให้เราได้แบบช้าๆชิวๆค่อยๆปล่อยไปในเลือด เราเลยได้ปริมาณน้ำตาลที่ไม่สูงปรี๊ดจนร่างกายรีบตัดส่วนเกินเป็นไขมันแบบพวกโดนัท ไอศครีม น้ำหวานๆ เพราะพวกนี้เข้าร่างกาย เค้าจะไปเป็นน้ำตาลในเลือดเร็ว พอเกิน เจ้าinsulin(อธิบายไปแล้วไปไล่อ่านดูนะคะ)รีบตัดส่วนเกินเป็นไขมันรอบเอวทันที เพราะคุณserveน้ำตาลไปในตัวคุณเร็วมากนั่นเอง จะสังเกตุคนทานแป้ง น้ำตาลจะอิ่มเร็วแต่เดี๋ยวก็หิวเร็วอีกเช่นกัน เพราะเกิดจากการที่เค้าตัดออกเป็นไขมันเร็วนั่นเอง ยังมีต่อไม่จบค่ะ....รายละเอียดเยอะนิดนึงนะคะ ; -
“Days are expensive. When you spend a day you have one less day to spend. So make sure you spend each one wisely.” วันเป็นของแพง ถ้าคุณใช้วันหมดไปวันหนึ่งคุณก็จะมีวันให้ใช้ลดลงไปวันหนึ่ง ดังนั้นจงแน่ใจว่าคุณใช้แต่ละวันอย่างฉลาด Good Night คืนวันเสาร์ค่ะ เวลาผ่านไปอีกหนึ่งวันคุณได้ทำอะไรที่แตกต่างจากที่เคยเป็นจากเมื่อวานแล้วรึยัง ️เริ่มออกกำลังกายแบบจริงๆจังๆ ️เริ่มทานอาหารแบบพอดีใช้งาน และมีประโยชน์ ️พรุ่งนี้เมจิมีการแชร์การปรับนิสัยของคนติดหวานมาเล่าให้ฟังค่ะ followมานะคะ ถ้าใครมีเพื่อนกำลังเจอกับปัญหาเรื่องการทานอาหารแบบผิดวิธีฝากแชร์ให้เค้าทราบด้วยนะคะ; -
วันหยุดสุดสัปดาห์เช้าๆแบบนี้ออกไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ นอนอาบแดดที่สระว่ายน้ำ หรือใครมีคอนโดก็ลงไปว่ายน้ำอาบแดดที่สระบ้าง บางคนอาจอยู่มาเป็นปีๆแต่ไม่เคยใช้บริการของสระว่ายน้ำเลย ใครชอบผิวแทนๆสวยๆแดดตอนนี้ดีมากเลยค่ะ️ไม่ดำไหม้ #️เมจิใช้suntan oil เนื้อoilSPF2สีออกแดงๆ ผิวจะแทนแบบแดงๆ ใครกลัวฝ้า กละ ใส่หมวกไว้ อย่าใส่แว่น เดี๋ยวหน้าเป็นแรคคูณ เพราะตรงที่ใส่แว่นจะขาวเป็นดวงๆ อาบเสร็จ มาอาบน้ำห้ามเช็ดตัว ทาbody oil เมจิใช้coconut oil แบบไร้กลิ่น หาซื้อได้ตามร้านotopต่างๆเวลาไปเดินตลาดต่างจังหวัด การทาoilโดยไม่เช็ดตัวให้แห้งหลังอาบน้ำจะช่วยให้ผิวแทนของเราไม่ไหม้ และไม่ดำแห้งค่ะ ตรงนี้คือส่วนที่สำคัญที่สุด เพราะผิวที่โดนแดดจะแห้งง่ายกว่าผิวธรรมดา️การทาครีม lotionอย่างเดียว ความชุ่มชื้นไม่พอค่ะ ใกล้Summerแล้ว รีบfit หุ่นให้สวย อาบแดดแทนๆ เตรียมตัวใส่บิกีนี่รับsummer นี้นะคะ เดี๋ยวใส่2pieces แล้วไขมันปลิ้นออกมา แบบนี้ไม่เอานะคะ ;
-
️จริงๆการทานคาร์บ น้ำตาล เป็นเรื่องที่จำเป็นค่ะ แต่ทีนี้คนเราเวลาหิวมากๆก็จะคิดทานแต่แป้งๆๆๆ ข้าวๆๆ ขนมปังๆๆๆ เป็นหลักเกือบ80%ในหนึ่งมื้อ โดยมีกลุ่มโปรตีนผักอยู่นิดเดียว บางคนถึงขนาดติดแป้ง ติดน้ำตาล เรียกได้ว่าถ้าชั่วโมงไหนไม่ได้ทานแป้ง น้ำตาล จะหงุดหงิด ทีนี้เลยเหมารวมเอาว่า ชีวิตคุณขาดแป้งน้ำตาลไม่ได้ เหมือนจะขาดใจ แต่มันเป็นเพียงความรู้สึกติดทางจิตใจมากกว่า แต่ตามหลักความจริงของร่างกาย ว่าร่างกายเค้ารู้วันนึงๆเค้าต้องการพลังงน้ำตาลที่ได้จากคาร์เท่าไหน พอได้แล้วส่วนเกินก็ตัดเก็บเป็นไขมันสะสมรอบๆเอวไป แต่สิ่งที่เราไม่ค่อยย้อนกลับมาดูคือจิตใจ 😇ที่ติดในรสชาติของความหวาน หรือแป้ง ปัญหาของคนส่วนใหญ่ในโลกนี้คือปัญหาไขมันสะสมที่เกินร่างกายต้องการ ทานทุกวันวนเวียนสะสมมากกว่าที่จะใช้พลังงานออกไป เมื่อคนเราได้เสพติดอะไรสักอย่างทางใจแล้วล่ะก็ยากที่จะดึงออก เช่น คนติดสารนิโคตินจากบุหรี่ ติดแอลกอฮอล์ ติดยาเสพติด ติดเกมส์ ติดการพนัน ถามว่าสิ่งเหล่านี้จำเป็นต่อร่างกายมั้ย ?เปล่าเลย แต่เรากำลังปลูกฝังอุปนิสัยผิดๆในการบริโภคให้กับตนเอง เลยกลายเป็นอ้างว่า ชั้นขาดสิ่งๆนี้ไม่ได้หรอก ชั้นแย่ๆแน่ๆ จนกลายเป็นเครื่องมือทำมาหาเงิน รายได้มหาศาลเข้ากระเป๋านักขายยาลดความอ้วน ซึ่งเคลมว่าลดความอ้วนได้ แต่โลกนี้ปัญหาคนที่มีไขมันสะสมก็ยังคงอยู่นั่นเอง มันไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ หากเรามองย้อนกลับ ร่างกายและสมอง หากเราทำอะไรบ่อยๆซ้ำๆนานๆเข้าเค้าก็จะปรับเป็นอุปนิสัยที่เคยชิน จนวันนึงคุณแทบไม่ต้องฝืนทำมันเลย เหมือนคุณขับรถไปที่ทำงานแห่งใหม่ ทำทุกๆวัน วันนึงคุณก็ขับจนชินจนไม่ต้องนึกทางเลย ขับเหม่อๆลอยๆเดี๋ยวก็ถึง การทานแป้ง คาร์บ น้ำตาลก็เหมือนกัน เมจิไม่ได้บอกว่าห้าม️ทาน แต่ฝึกทานให้พอดีกับที่ร่างกายต้องการ ในแต่ละวันไขมันสะสมก็จะไม่เกิด เพราะเราขาดเค้าไม่ได้เช่นกัน เพราะเค้าคือพลังวานของcellในร่างกาย.แต่เจ้าความพอดีเนี่ย มันอาจจะน้อยเกินไปในความรู้สึกของรสชาติที่เราติดใจ ผลคือพอเริ่มstart แล้ว non stop คือต้องอัดแป้งน้ำตาลจนแน่นื้ท้องวันแล้ววันเล่า เมจิเองก็เคยเป็นึนติดแป้ง น้ำตาลเรียกได้ว่าทานทั้งวัน อิ่มแล้วก็ยังไม่หยุด จนวันที่เมจิมองดูตัวเองว่าถ้าปล่อยให้ตัวเองทำแบบนี้ต่อไป ไม่ถึงอายุ50เมจิต้องกลายเป็นคนอ้วนแบบยาวนาน เมจิเลยเริ่มปลูกฝังนิสัยตัวเองวันละเล็กวันละน้อยให้รู้จักทานแปัง น้ำตาล เท่ากับการใช้งานแล้ววันนึงเมจิเลยมองย้อนกลับไปว้า การทานแปังน้ำตาลแบบมากๆ เหมือนสมัยก่อน ไม่จำเป็นเลย ทานพอดี ชีวิตก็ยังดูดีอยู่ทุกวันนี้ ไม่ได้ถึงขนาดจะขาดใจสิ้นลมขนาดนั้นเลยค่ะ; -
Motivation is what gets you started . Habit is what keeps you going แรงกระตุ้นคือสิ่งที่ทำให้คุณเริ่มต้น แต่ทำจนกลายเป็นนิสัยคือสิ่งที่ทำให้คุณเดินต่อไปแบบต่อเนื่อง แต่ถ้าคุณมีแค่แรงกระตุ้น แต่ไม่ทำจนกลายเป็นนิสัย มันก็ได้แค่ชั่วครั้งชั่วคราว นี่คือกุญแจที่ไขไปสู่ความสำเร็จในการรักษารูปร่างที่ดี และแข็งแรงค่ะ เป็นกำลังใจให้ทุกๆคนค่ะ P.Sภาพซ้ายขวา จาก58kg มาเหลือ49kg แถมผอมแล้ว ยังเพิ่มกล้ามเนื้อด้วย ตัวจะได้ไม่นุ่มนิ่ม วันนี้ขอแก้ข้อความว่า""คาร์โบไฮเดรตนั้นจะไปย่ิอยที่ลำไส้เล็กนะคะ ไม่ใช่ย่ยที่กระเพาะอาหารค่ะ กระเพาะอาหารไม่มีเอมไซม์ย่อยแป้งค่ะ "" good night ค่ะ พรุ่งนี้follow กันมาว่ามีเรื่องอะไรมาเล่าอีกค่ะ ที่แน่ๆมีประโยชน์ทั้งนั้นค่ะ ; -
Question: แป้ง น้าตาล คาร์บ เข้าร่างกาย แล้วทำไมถึงกลายเป็นไขมันรอบเอว ? ต้องกินไขมันถึงจะเป็นไขมันไม่ใช่เหรอคะตามตรรกะแล้ว? Answer: คาร์บ ไขมัน โปรตีน คือแหล่งพลังงานของมนุษย์ เหมือนรถที่ต้องการน้ำมันมาเผาไหม้ให้เป็นพลังงาน แต่ แป้ง น้ำตาล คาร์บ กลายเป็นไขมันสะสมไปได้ยังไง มาดูกันค่ะ เมื่อเราทานแป้ง หรือน้ำตาล หรือคาร์บเข้าไป ร่างกายจะย่อย ในกระเพาะ แล้วเปลี่ยนเป็นกลูโคส เข้าไปในเลือด และเลือดก็สูบฉีดเข้าถึงทุกๆCellในร่างกาย เพื่อใช้เป็นพลังงาน ส่งไปที่กล้ามเนื้อ สูบฉีดทั่วร่างกาย เรียกว่าเลือดไปถึงไหน พลังงานงานน้ำตาลกลูโคสในเลือดก็ไปถึงนั่นแหละค่ะ แต่ถ้าเราทานพวกแป้ง น้ำตาล คาร์บโบไฮเดรตที่มากเกินที่ร่างกายต้องการใช้เป็นพลังงานผลคือ เค้าก็จะย่อยจนกลายเป็นน้ำตาล จนน้ำตาลในเลือดก็จะสูงเกินไปจนเกิดภาวะร่างกายShock อุณภูมิในร่างกายก็จะสูงขึ้น แต่ร่างกายคนคือสิ่งมหัศจรรย์ เค้าไม่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้น เค้าเลยมีฮอร์โมนที่ชือ Insulin ที่มาจากตับ เป็นตัวดักตัดวงจรน้ำตาลในเลือด ในกรณีที่เค้าคนๆนี้ อัดคาร์บแบบเต็มพลัง คือ เค้าจะไปดึงน้ำตาลที่เกินร่างกายใช้งาน diverted เปลี่ยนเป็นไขมัน เก็บไว้ แถวรอบๆเอว เพราะเป็นZone ทีตับเราวางอยู่ค่ะ ไม่สงสัยนะว่าทำไมไขมันถึงมาเกิดรอบเอวก่อน ? ถ้ามากก็จะเลยไปส่วนอื่นๆในร่างกาย ทีนี่คนที่เป็นเบาหวานที่เกิดจากน้ำตาลในเลือดสูงก็เพราะ ถ้าทานคาร์บ แป้ง น้ำตาล ถ้าทานพอดีร่างกายใช้งานก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าทานเกินผลคือน้ำตาลในเลือดที่สูงมาก แต่เจ้าฮอร์โมนที่ชื่อ Insulin เนี่ยดันทำงานผิดปกติ คือแทนที่เค้าจะมาตัดน้ำตาลเปลี่ยนเป็นไขมันเหมือนคนทั่วไป เค้าเลยไม่ตัดระบบวงจรน้ำตาลลงให้กลายเป็นไขมัน ผลที่ตามมาคือ Shock วูบเป็นลม เพราะอุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น จากน้ำตาลกลูโคสในเลือดที่สูงปรี๊ด ไม่ใช่ว่าดีนะคะที่เป็นเบาหวาน บางคนบอกอย่างงี้ก็ดีชั้นจะได้ไม่มีไขมันสะสม คุณลองนึกภาพเวลาคุณเอาผลไม้ หรือ เนื้อสดๆไปแช่น้ำตาลเป็นเวลาปีๆดูนะคะ Cell ก็จะโดนทำลาย เหมือนเนื้อที่เปื่อยๆยุ่ยๆ คนที่เป็นเบาหวาน บางคนไม่ทานของหวานเลย แต่ทำไมน้ำตาลขึ้น เพราะนอกจากของหวานแล้ว พวก แป้ง คาร์โบไฮเดรต ผลไม้หวานๆ ข้าวสวยขัดขาว ขนมปัง เข้าร่างกาย เค้าเปลี่ยนเป็นกลูโคสในเลือดเช่นกันค่ะ วิธีการทานคาร์บหรือน้ำตาลที่ดีคือ อย่าทานแบบเดี่ยวๆเช่นน้ำหวานๆ น้ำอัดลม หรืออะไรที่เป็นแป้งขัดขาว เพราะ เวลาเข้าร่างกาย คือร่างกายเค้าได้กลูโคสแบบตรงๆ ไม่มีอะไรผสมเลย หรือเช่นขนมปังขาวๆทาแยม ถ้าเราทานมากๆ ผลคือเค้าเปลี่ยนเป็นน้ำตาลในเลือดทันทีที่ย่อยเสร็จ ถ้าเกินก็เก็บไขมันเลยค่; -
เมนูdiet hight Protein ที่เมจิแนะนำวันนี้ เป็นอาหารไทยที่เมจิชอบมาก คือ ส้มตำไทย Zuchini ใส่กุ้งสดตัวใหญ่ โรยถั่ว Almond ️วิธีทำก็เหมือนทำส้มตำเลยค่ะ แต่เมจิทำแตกต่างออกมาเล็กน้อยคือให้healthy diet ใช้ผลZuchini แทนมะละกอ ผลจะคล้ายๆแตงกวา และเป็นผักที่คาร์โบไฮเดรตต่ำกว่ามะละกอดิบ และมีวิตามินซีมากกว่ามะละกอ มะละกอดิบเป็นผักก็จริง แต่คาร์โบไฮเดรตสูงกว่า เมจิใช้มะขามเปียกผสม รสชาติจะได้ไม่แบน จางเกินไป จะเปรี้ยวแบบheavy หน่อย ที่สำคัญ จู๊ดๆ ดีค่ะ ตอนเช้า เมจิใช้stevia ผงหญ้าหวาน แทนน้ำตาล เป็นสารให้ความหวานจากธรรมชาติ ที่ให้ความหวาน แต่ไม่มีพลังงาน คนที่ลดน้ำหนักควรมีติดบ้าน และเมจิก็ใส่น้ำตาลดอกมะพร้าว ไปอีก1ช้อนชา น้ำตาลดอกมะพร้าว หอม เมจิใส่ถั่วAlmond แทนถั่วลิสง เพราะhight protein fiber เยอะ และมีไขมันดี ที่ทานแล้วไม่อ้วน ลดไขมันเลว เช่นคอเลสตอรอลเป็นต้น กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง เพราะเมจิเป็นนักออกกำลังกาย เมจิต้องการกล้ามเนื้อหัวใจที่แข็งแรง ️ ใส่กุ้งสดตัวใหญ่ๆ ประมาณ150กรัม ให้โปรตีน 20-30กรัม ในมื้อนี้ กุ้งเป็นแหล่งโปรตีนดี ที่ไม่มีไขมันสะสม เมจิแนะนะค่ะ ใส่น้ำปลาเล็กน้อย อย่าเค็มปี๊ดนะคะ เน้นเปรี้ยว ชูรสห้ามใส่นะคะ ไม่แนะนำให้ทานเลยจะดีมากค่ะ ร่างกายบวมน้ำค่ะ ใครทานแล้วไม่อิ่มเพิ่มกุ้งเยอะๆ ก็อิ่มแล้วค่ะ เมจิทานเป็นมื้อเย็น หรือกลางวันก็ได้ค่ะ ถ้าทานแล้วไปนั่งทำงานต่อ เห็นมั้ย ใครบอกอาหารhealthy ไม่อร่อย ไม่จริ๊ง ไม่จริง แค่เราดัดแปลงเล็กน้อยก็ได้รสชาติที่ดีแล้วค่ะ; -
ดำไปมั้ย ถึงทุกๆข้อความที่ส่งเข้ามาให้กำลังใจถึงเมจิทุกๆคนนเลยนะคะ ขออภัยที่ไม่สามารถไล่ตอบกลับได้ทุกคน แต่เมจิไล่อ่านทุกคนทุกข้อความเลยค่ะ ดีใจ และปลื้มใจที่ทำให้หลายๆคนเข้าใจการลดน้ำหนักที่ถูกทาง แบบไม่หลงทางเหมือนพายเรือวนอยู่ในอ่าง🚣 การลดน้ำหนักหรือรูปร่างให้fit and firm หลักการคือ ทานอาหารให้อิ่ม อย่าปล่อยให้โหย แล้วไปออกกำลังกายหนัก ๆ แบบนี้ผิดค่ะ ร่างกายมนุษย์เป็นอะไรที่ซับซ้อนมากค่ะ จำหลักการ เป็นคาถา ท่องขึ้นใจว่า ทานมากเกินไป ไขมันสะสม ทานน้อยเกินไป กลายเป็นyo yo effect ร่างกายขาดสารอาหาร แล้วกลับกลายเป็นสะสมไขมันเข้ามาแทน ออกกำลังกายมากเกินไป ก็over training ร่างกายสูญเสียกล้ามเนื้อ ตัวนุ่มนิ่ม ระบบเผาพลังงานต่ำลง ออกกำลังกายน้อยเกินไป ตัวก็นุ่มนิ่ม ไม่fit ไม่firm ระบบเผาพลังงานต่ำ จงหาทางสายกลางของแต่ละคนให้เจอ หาได้ยังไง อาศัยการฝึกฝนด้วยตนเอง ทั้งการทานอาหาร และการออกกำลังกาย รู้จักทำแบบต่อเนื่อง อย่างน้อย2week แพทย์ หรือนักวิทยาศาสตร์เวลาเค้าวิจัยอะไร เค้าก็ต้องทำแบบต่อเนื่องสม่ำเสมอ และเฝ้าสังเกตุความเปลี่ยนแปลง ร่างกายคุณเอง หากคุณไม่ลงมือทำด้วยตัวเอง ไม่มีใครรู้นอกจากตัวคุณเอง ร่างกายแต่ละคนแตกต่างมากค่ะ บางอย่างได้ผลกับอีกคน แต่ไม่ได้ผลกับหลายๆคน นะคะ ต้องลองแล้วแล้วสังเกตุตัวเองทีละ2week ว่าควรปรับอะไรเพิ่ม หรือลดอะไรลง ;
-
เช้านี้มาบริหารหน้าท้องแบบcrunches ง่ายๆสามารถทำเองได้ที่บ้าน เมจิแนะนำให้ไปซื้อ band หรือยางยืดแบบมีมือจับใครไม่มีgym ควรไปซื้อมาติดบ้าน พกพาสะดวกเวลาเดินทาง ราคาไม่แพง และสามารถให้ออกกำลังในการ ""ดึง"" เพราะDbจะเป็นทักษะการ""ยก""ซะมากกว่า นำหนังยางมาเกี่ยวกับเสา หรืออะไรที่หนัก ถ้าไม่มีก็crunches แบบตัวปล่าว เกร็งหน้าท้องตลอดการออกกำลังกายท่านี้ จะช่วยหนีบกล้ามท้องให้แน่นขึ้น เวลายกตัวขึ้นเป่าลมออกทางปากแรงๆเพราะเราจะใช้กล้ามท้องเข้ามาทำงานมากขึ้น ถ้าเป่าลมออกแรงๆ เวลาลง ช่วงอกขึ้นไปถึงศรีษะห้ามแตะพื้น แตะเฉพาะช่วงอก ลงมาเท่านั้น ห่อนตัวให้เป็นรูปตัวC เตะเข่า crunches มาทีหน้าอก เป่าลมออกแรงๆ คุณจะไดัทั้งช่วง Abs บนสะดือ และล่างสะดือค่ะ มือที่ถือแบนlockไว้ที่หน้าอก เป็นการบังคับให้หน้าท้องเกร็งไปในตัวค่ะ ทำจนกว่าจะเมื่อย ในแต่ละset แต่ละsetอาจจำนวนไม่เท่ากัน ไม่เป็นไร เอาเป็นว่า เมื่อยสุดๆ แล้วพัก แล้วทำอีกทั้งหมดเป็น4setค่ะ เมจิไม่อยากบอกตัวเลขว่ากี่ที เพราะ ถ้าบอก15ที20ที บางคนยังไม่รู้สึกอะไร หรือบางคน10ทีอาจไม่ไหวแล้ว เอาแบบสุดพลังของตัวเองดีที่สุดค่ะ #meijihealthy#abswprkout#strong#power#fitnessgirl@fitandfirm; -
“Success is nothing more than a few simple disciplines, practiced every day.” ความสำเร็จไม่ใช่อะไรเลยนอกไปจากการมีวินัยอย่างง่ายๆ แค่สองสามอย่าง แต่ทำมันทุกๆ วัน Thaks my partner to jogging up hill with me "Will"@mikaylalawrie ขอบใจ วิล จากออสเตรเลีย ที่มาเป็นเพื่อนวิ่งjogging ขึ้นลงเขาแต่เช้ากับเมจิ ขอบอกว่ามันเหนื่อยมาก เมจิเองจะไม่ปล่อยให้ตัวเองเว้นช่วงออกกำลังกายไปนานค่ะ เพราะเว้นไปนานจะกลายเป็นขี้เกียจ เลยต้องbuildตัวเองให้อยุ่ในZone วินัย พร้อมทั้งฝึกฝนร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ หาอะไรใหม่ๆที่แตกต่างทำในแต่ละกิจกรรม เช่นเปลี่ยนสถานที่ออกกำลังกาย หาเพื่อนมาแจมในการออกกำลังกาย แล้วจะไม่เบื่อค่ะ พรุ่งเมจิทีท่าบริหารหน้าท้อง ทำเองที่บ้านได้ followมานะคะ ฝากบอกเพื่อนให้ทราบด้วยนะ เจออะไรดีๆแล้วบอกต่อ สิ่งดีๆก็จะเกิดกับ้ราเช่นกันค่ะ Good night ; -
การกำจัดไขมันสะสมหน้าท้องได้สำเร็จ key กุญแจที่จะไขไปถึงคือ 1.ระเบียบวินัยในการทานควบคุมแป้งน้ำตาล ขนมของหวาน เค้ก bakeryต่างๆไม่ให้มากนานทานทีได้ ต้องต่อเนื่องสม่ำเสมอ 3วันลด3วันหลุด ไม่ได้ผลค่ะ ทานบ่อยๆไขมันหน้าท้องลงยากค่ะ การลดไม่ยากค่ะ แต่การลดและควบคุมให้ต่อเนื่องสม่ำเสมอ ต่างหากถึงจะสำเร็จ จงฝึกสติที่จะควบคุมความอยากที่เกินร่างกายต้องการ 2.ออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อให้ทั่วร่างกาย ไม่ใช่เพาะส่วนในส่วนหนึ่งที่ต้องการลดเท่านั้น ต้องต่อเนื่องสม่ำเสมอ 3วันทำ3เดือนหยุด ไม่ได้ผลค่ะ 3.ของทอดน้ำมันซ้ำๆ เนื้อสัตว์ติดมัน ทานบ่อยๆก็มีพุง ครีมๆเนยๆ ก็มีไขมันสะสมได้และน้ำมันผ่านกรรมวิธีก็อุดตันค่ะ 4.ทานกากไยจากผัก fiber ให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี บางคนมีพุง ไม่ใช่ไขมันอย่างเดียว ภายในช่องท้องก็ป่อง เพราะผนังลำไส้มีเมือกสะสมมาก บางทีถ่ายออกไม่หมด เลยมีพุงทั้งๆที่ยังไม่ค่อยทานอะไรมาก เพราะทานพวกไขมันสัตว์ หรือครีมๆมันๆบ่อยๆ 5.งดผงชูรสทุกรูปแบบ และลดดีกรีความเค็มลง เพราะบางทีร่างกายเก็บน้ำไว้มากเพราะเกลือในร่างกายสูงเกินไป 6.ใครเป็นนักดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด มีไขมันสะสมแน่นอนค่ะ ยิ่งดื่มทุกวัน มีแน่นอนค่ะ ถึงแม้ควบคุมอาหารอย่างดี ออกกำลังกาย ดื่มบ่อยๆไขมันก็มาค่ะ เพราะแอลกอฮอล์คือคาร์บ เข้าร่างกายเป็นน้ำตาล ถ้าร่างกายใช้ไม่หมดก็เก็บเป็นไขมันรอบเอว โดยเฉพาะbeer เคยเห็นคนเยอรมันประเทศที่ชอบดื่มbeerมั้ยคะเห็นพุงเค้ามั้ยคะ 7.ผลไม้หวานๆ น้ำผลไม้หวานๆ ทานมากๆก็ไขมันค่ะ ถึงแม้เค้าไม่ใช่ไขมัน ถึงแม้คุณจะdietแบบทานแบบผลไม้ หากทานหรือดื่มแบบหวานๆ คือน้ำตาลค่ะ ถึงแม้จะเป็นน้ำตาลจากผลไม้ก็ตามค่ะ ร่างกายเหลือใช้ เปลี่ยนเป็นไขมันรอบเอวค่ะ 8.นม หรือyogurtที่ผสมรสชาติต่างๆ หวานๆทานบ่อยๆไขมันรอบเอวก็มาค่ะ ถึงแม้จะดื่ม หรือทานแทนมื้อหลัก ทานมากไขมันก็มาค่ะ นม หรือyogurt บางยี่ห้อ น้ำตาล และแป้งเยอะมากค่ะ สรุปง่ายๆคืออยากลดไขมันหน้าท้อง ต้องควบคุม คาร์โบไฮเดรต น้ำตาล ไขมัน ไม่ให้มากเกินไป ต้องเป๊ะมาก และต้องต่อเนื่องเป็นประจำ ถามว่าเท่าไหนแต่ละคนไม่เท่ากันเลย แม้ในทุกๆวันเราก็ต้องการพลังงานต่างกัน เทคนิคคือถ้าจะทานน้ำตาล ทานคาร์บ ให้คิดว่าหลังจากนี้อีก3ชั่วโมงคุณจะทำกิจกรรมอะไรถ้านั่งๆนอนๆ ก็ไม่ควรทาน ถ้าจะไปออกกำลังกาย เดินๆๆๆวิ่งๆๆก็ควรทานค่ะ เมจิเองก็ไม่อยากจำกัดตัวเลขเป๊ะว่าจะทานกี่กรัมๆๆ เพราะเมจิกิจกรรมแต่วันก็ใช้พลังงานมากน้อยต่างกันค่ะ เช่นถ้าขนมปังก็1แผ่น ข้าวกล้องก็เท้ากำปั้นตัวเอง ถ้าไม่อิ่มก็ไปเพิ่มโปรตีน หรือ ผักแทน ค่ะ; -
“If you are not willing to risk the unusual, you will have to settle for the ordinary.” ถ้าคุณไม่ยอมเสี่ยงให้กับสิ่งที่ไม่ธรรมดาคุณก็จะต้องใช้ชีวิตไปอย่างธรรมดาๆ การที่เราต้องการเปลี่ยนตัวเองต้องยอมทุ่มทำสิ่งที่แตกต่าง จากที่คุณเคยเป็น ส่งต่อให้คนที่คุณแคร์ เพื่อสร้างกำลังใจให้กันและกันนะคะ Goodnight และพรุ่งนี้เมจิจะมาแชร์เคล็ดลับกุญแจสำคัญในการลดไขมันหน้าท้อง ทำยังไง ตามfollowมาได้ค่ะ ; -
😎Question:ทำไมดิชั้นวิ่ง6วันต่อweek บางทีวิ่งตอนเช้า แล้วก็มาวิ่งตอนเย็นอีก แต่น้ำหนักก็ไม่ลด กล้ามก็ไม่เห็นชัด ไขมันก็ยังไม่ลด กล้ามท้องก็ไม่เห็นมา ท้อมาก ดิชั้นมาถูกทางหรือแก้ตรงไหนบ้างคะ 😎Ans: เกือบถูกแล้วค่ะ ถูกทางคือคุณเป็นคนที่ขยันมากในการออกกำลังกาย นี่คือข้อดีที่คุณมี แปลว่าคุณมีความพยายามที่ดีมากยอมเหนื่อยเพือร่างกายที่ดี แต่เมจิแก้ให้นิดนึงคือ การที่เราวิ่งเพียงอย่างเดียวเพื่อหวังให้ร่างกายเอาไขมันสะสมออกมาใช้ ไม่ได้อยู่ทีระยะเวลาว่าคุณวิ่งวันละกี่ครั้ง ถึงแม้เวลาเท่ากัน การburnก็ไม่เท่ากัน เพราะบางวันวิ่งช้า บางวันเร็ว สิ่งที่เมจิขอปรับให้คือ ️ไม่ต้องวิ่งทุกวันค่ะ เปลี่ยนเป็นสัปดาห์ละ2-3วัน ️ใน1week สลับมาออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อซัก3วัน ให้ทั่วร่างกาย เพราะระบบเผาพลังงานจะอยู่ในมวลกล้ามเนื้อ ใครมีกล้ามที่fit and firmมาก คนนั้นก็เผาพลังงานได้มาก ย้ำนะคะfit and firm ไม่ได้แปลว่าต้องกล้ามใหญ่เหมือนนักกล้ามค่ะ คนละเรื่องกัน ไม่ต้องกล้ามใหญ่ก็fit and firm ได้ค่ะ ️ถ้าอยากวิ่งในวันเดียวกับวันที่เล่นกล้ามเนื้อ ให้เล่นสร้างกล้ามเนื้อก่อน แล้ว ค่อยวิ่งทีหลังเล่นเวท อีกซัก30-40นาที ให้วิ่งเร็วจนเหนื่อย แล้วค่อยสลับมาเดิน สลับเดินวิ่งไปเรื่อยๆ เพราะ หากวิ่งก่อนเล่นเวทในระดับที่cardio ร่างกายจะดึงน้ำตาลกลูโคสออกมาใช้มาก แล้วหากมาเล่นเวทหลังวิ่ง ร่างกายก็อาจไปดึงกล้ามเนื้อมาเป็นพลังงานแทน ผลคือยิ่งเล่นเวท ยิ่ง เสียกล้ามเนื้อไปค่ะ เคยเห็นบางคนมั้ยคะ ออกกำลังแบบมากๆ ทำไมดูตัวนุ่มนิ่ม ทั้งๆที่ดูออกกำลังกายมาก เค้าเรียกว่าover training ค่ะ ️ทานโปรตีนให้มากขึ้น เพราะหากคุณทานแต่ผักผลไม้ แทนอาหาร แล้ววิ่งๆเช้าวิ่งเย็น ผลคือร่างกายดึงกล้ามมาเป็นพลังงานในการวิ่ง ยิ่งวิ่งตัวยิ่งเหลว เพราะเสียมวลกล้ามเนื้อ พอตัวเหลวระบบเผาไขมันจะต่ำไปด้วย กลายเป็นว่าเหนื่อยฟรี เพราะโปรตีนในร่างกายไม่พอใช้ ร่างกายไปดึงกล้ามเนื้อมาเป็นพลังงาน มากกว่าไปดึงไขมันมาใช้ ต้องทานโปรตีนให้ได้อย่างน้อย1กรัม ต่อนน.ตัว1kg ถ้าหนัก50kg ควรทานโปรตีน50กรัมเป็นอย่างน้อยต่อวัน ใครน้อยกว่านั้นไม่ว่าในเรื่องของการสร้างกล้ามหรือ ด้านสุขภาพก็ไม่ดีค่ะ ถือว่าน้อยไปร่างกายไม่พอใช้ ไหนจะออกกำลังกายอีก ️หลักการเข้าใจง่ายๆนะคะ คือ สร้างกล้าเนื้อให้fit ทั่วร่างกาย เมื่อมีกล้ามเนื้อที่fit firmมากขึ้น ร่างกายจะเผาพลังงานไขมันสะสมได้มากขึ้นเวลาที่เราวิ่งค่ะ คนที่กล้ามเนื้อน้อย วิ่งนานแค่ไหนร่างกายก็เผาน้อยค่ะ กล้ามเนื้อเปรียบเหมือนการที่เราเพิ่มแรงม้าหลายตัวมาลากเกวียน จะเร็วกว่าค่ะ;
Instagram is a registered trademark of Instagram, inc.
