เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์
ติดต่องานที่ 085-907-7334 (คุณจอย)
ของ เจมส์ เรืองศักดิ์
มี 222 คนชอบรูปนี้
-
; -
เช้านี้ที่สวนลุม... วันนี้ตื่นค่อนข้างสาย นึกในใจว่าเจอแน่แดดเปรี้ยงๆที่สวนลุม มีแว๊บอยากขี้เกียจเหมือนกัน แต่วันนี้เรารู้ว่า เราตื่นมาวิ่งทำไม...เพื่ออะไร...และเรากำลังทำอะไรอยู่ อยู่ในขั้นตอนอะไร เมื่อได้สติก็ออกมาวิ่งตามปกติ.. ชีวิตคนเราก็เช่นกัน... คนขี้เกียจในโลกนี้ไม่มีจริงหรอก มีแต่ในบางครั้งเขาไม่รู้ว่าเขาจะขยัน ในเรื่องนั้นๆไปเพื่ออะไร เขาจึงไม่มีแรงบันดาลใจใดๆ ให้ลุกขึ้นมาทำอะไรให้สำเร็จเป็นอย่างๆกับชีวิต ดังนั้นจงหาเหตุผลให้เจอครับ ว่าทำไมชีวิตนี้เราต้องสำเร็จกับสิ่งที่เราตั้งเป้ากับชีวิตให้ได้ เหตุผลนั้นต้องเป็นเหตุผลส่วนบุคคล.. ที่เข้มข้น.. หนักแน่น และไม่ทำไม่ได้ .... สิ่งนั้นแหละที่เราเรียกแรงบันดาลใจ เมื่อเรามีแล้ว ทุกวันที่เราตื่นขึ้นมา เราจะมีสติ และรู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ และเพื่อใคร คนสำเร็จทุกคนเขาหามันเจอครับ .. และเขาก็กอดเหตุผลนี้ไว้อย่างแน่น ไม่มีใครมาโขมยไปได้ ... เท่านี้แหละครับจะสะกด คำว่า"ขี้เกียจ" ไม่เป็นอีกเลย เริ่มที่เรื่องเล็กๆก่อนเลยครับ ตื่นมาออกกำลังกายกันครับ .. หาเหตุผลของตัวเองให้พบ ถ้าหาไม่พบเจ้าตัวขี้เกียจในหัวเรา มันก็จะหาเหตุผลที่หนักแน่นให้เราเหมือนกัน ว่าทำไมไม่ต้องทำ(ฮา....); -
เช้านี้ที่สวนลุม... วันนี้มาแต่เช้ามาหาครูดิน สถาวร จันทร์ผ่องศรี ได้ประกาศตั้งเป้ากับครูว่าปีหน้าจะไปวิ่ง Tokyo Marathon 2016 (ระยะทาง42 Km) เรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง (ฮา....) วันนี้ได้เรื่อง ความสุขคือ"ทางเลือก"เราเป็นผู้เลือก "ในโลกนี้ไม่มีใครมีสิทธิมาทำให้เราทุกข์ได้ ถ้าเราไม่อนุญาติ" ที่ทุกข์เพราะดันอนุญาติให้ความคิดทุกข์ๆมันเข้ามาแค่นั้นเอง ซึ่งการอนุญาตินี้ ก็เป็นการเลือกแบบนึงของเรา... ดังนั้นถ้าอยากมีความสุขง่ายมากครับ ก็แค่ไม่อนุญาติให้ความคิด หรืออะไรที่จะทำให้เราเป็นทุกข์มันเข้ามาอยู่ในชีวิตเราแม้แต่วินาทีเดียว มีสติรู้เท่าทันความคิดเป็นนายความคิด เราควบคุมความคิดได้ เราก็จะคุมอารมณ์ความรู้สึกได้ ...และถ้าเมื่อไหร่คุมEmotion ได้นะ คุณเอ๋ยยย.....ลบคำว่า"ทุกข์ใจ"ออกจากพจนานุกรมตัวเองได้เลยครับ; -
James เรืองศักดิ์ ณ. ปัจจุบัน; -
เช้านี้ที่สวนลุม... จำได้วันแรกๆตอนวิ่ง ก็มีหลายๆคนบอกผมว่า จะวิ่งได้ซักกี่วันเชียว , ตื่นเช้าทุกวันทำไม่ได้หรอก , เดี๋ยวก็เบื่อ เดี๋ยวก็เลิก วิ่งไปก็นึกถึงหนังเรื่อง pursuit of happyness (หนังจงใจเขียนชื่อผิด ทำไมน่ะรึ ไปดูเองครับ) สร้างจากเรื่องจริง มีฉากประทับใจฉากนึงที่พ่อคุยกับลูกว่า" อย่าให้ใครมาบอกว่า ลูกทำอะไรไม่ได้ แม้แต่พ่อเอง คนที่เขาทำอะไรไม่ได้ ก็มักจะบอกว่าคนอื่นต้องทำไม่ได้เหมือนตัวเอง ลูกมีฝันจงไปคว้ามันมาให้ได้" กินใจมากๆ ท่อนนี้ของหนัง ชีวิตคนเราก็เช่นกัน... มีหลายครั้งที่เราต้องล้มเลิกความฝันบางอย่างในชีวิต เพียงเพราะคำพูดเพียงไม่กี่คำ ของบางคน..., จริงๆแล้วทุกอย่างเกิดจากเราเอง จะให้คนเป็นร้อยคน บอกว่าคุณทำได้นะ แต่เราดันบอกตัวเองว่าฉันทำไม่ได้หรอก จบเห่... แต่ต่อให้คนเป็นล้านคน มาชี้หน้าคุณ บอกว่าคุณทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ไม่ได้หรอก.. แต่คุณคนเดียวชี้ตัวเองแล้วบอกว่า " ฉันทำได้ " จบ..... "คุณทำได้ครับ" อย่าให้ใครมาโขมยความฝันอันมีค่าของคุณ ด้วยนำ้ลายเพียงไม่กี่หยด...;
-
เมื่อวานนี้ที่สวนลุม... วันนี้เป็นวันที่คึกคักเป็นพิเศษกว่าทุกๆวัน ผู้คนมากมายมุ่งหน้ามาออกกำลังกาย แต่ก็ยังมีผู้คนอีกมากมายที่นอนเฉยๆอยู่บนเตียง (ฮาาา...) ผมมีความสุขมากๆกับการได้ออกมาวิ่ง เพราะนอกจากได้ร่างกายที่แข็งแรง ฟิตและทนทานแล้ว ผมยังมีพันธสัญญากับตัวเองว่า ทุกครั้งที่ออกมาวิ่ง ผมจะคิดทบทวนและมีสติอยู่กับตัวเอง และอย่างน้อยทุกครั้งต้อง"คิดได้"จนเกิดปัญญากับชีวิต และทำให้ได้ในสิ่งที่คิดวันละเรื่อง ... วันนี้ผมได้เรื่อง "วิธีการทำนายอนาคตที่แม่นที่สุด.. ก็คือการดูวิธีการดำเนินชีวิตแต่ละวัน" สมมติอีก 6 เดือนข้างหน้า จะมีคนมาบอกว่าทำไมผมแข็งแรงจัง ทำไมรูปร่างดี โห ฟิตจังเลย ผอมจังเลย ... ผมจะไม่ตื่นเต้นอะไรเลยครับ. ก็เพราะรู้อยู่แล้วว่าจะต้องได้แบบนั้น เพราะแต่ละวันผมออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ .... กินอาหารดี.... พักผ่อนดี.... คิดแต่เรื่องดี ชีวิตคนเราก็เช่นกัน ........ ตัวเราในอนาคตก็คือผลผลิตจากกิจวัตรประจำวันที่เราเป็น เราอ่านอะไร , เราฟังอะไร ,เราคิดอะไร, เราอยู่ในสังคมแบบไหน และเราเลือกทำสิ่งต่างๆในชีวิตแต่ละวันอะไรบ้าง นั่นแหละครับคือหมอดูอนาคตที่แม่นที่สุด .......... ดังนั้น ตัวเราคือคนกำหนดชะตาชีวิตตัวเอง.... เปลี่ยนซะเถอะครับ ถ้ากิจวัตรแต่ละวันที่ทำอยู่... มันไม่ได้ส่งผลถึงเป้าหมายชีวิตที่เราต้องการเลยแม้แต่น้อย ...... เริ่มที่เรื่องง่ายๆก่อนเลย.. มาปฏิวัติตัวเองด้วยการออกกำลังกายครับ ถ้าเราทำเรื่องนี้ได้ เรื่องอื่นจะ Banana bana na-nahhhhhh; -
เช้านี้ที่สวนลุม... วันนี้ได้เรื่องข้ออ้างคลาสสิค "ไม่มีเวลา" หลายครั้งที่เราเลี่ยงที่จะทำอะไรสักอย่างเช่น การออกกำลังกาย แล้วเราก็จะพูดเสมอๆว่า ไม่มีเวลา ... จริงๆแล้วต้นทุนที่มนุษย์ทุกคนได้มาเท่าๆกัน คนละ 24 ชม คือเวลาชีวิต ดังนั้นคำว่าไม่มีเวลาไม่มีจริง มีแต่เอาเวลาไปทำอย่างอะไรมากกว่า เอาไปทำสิ่งที่เราคิดว่าสำคัญกว่า เราเลยเรียงลำดับเอาสิ่งที่เราคิดเองว่าไม่สำคัญไว้ทีหลัง .... ชีวิตคนเราก็เหมือนกัน. บางทีเรามัวเอาเวลาไปทำอะไรบางอย่าง ได้อะไรบางอย่าง แทนที่จะนำเวลามาสร้างความแตกต่างให้ชีวิต อย่างเช่นการดูแลตัวเอง การออกกำลังกาย หรือสร้างความสุขให้ครอบครัว...ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการมีสุขภาพที่ดีๆและมีชีวิตครอบครัวที่มีความสุขหรอกคร๊าบ ... ปล... ใครที่ไม่มีเวลาให้พ่อแม่ ให้คนที่เรารัก ให้แฟน ลองนั่งทบทวนตัวเองให้ดีๆ ว่าเราจัดความสำคัญให้พวกเขาเหล่านั้น เป็นอันดับที่เท่าไหร่ของชีวิต...; -
ก็แค่ทำ.. #King's cup Pattaya Marathon2015; -
มาละ ! การร่วมแข่งวิ่งครั้งแรกในชีวิต ใครลงรายการนี้ พรุ่งนี้เจอกันน้าคร๊าบบ... #King's cup Pattaya marathon2015; -
เช้านี้ที่สวนลุม วันนี้ตื่นเช้าเป็นพิเศษเพราะต้องรีบวิ่งให้เสร็จ... จากนั้นมาอาบน้ำเพื่อให้ทันเครื่องบินเที่ยวเช้า..... (อันนี้เป็นข้ออ้างอย่างดีเลยทีจะไม่วิ่ง... แต่ผมก็ผ่านมันมาได้) รู้สึกสดชื่น และเหมือนตัวเราได้ทำข้อสอบชีวิตข้อย่อยๆ ผ่านไปอีก1ข้อ... วันนี้ได้เรื่อง คนหลายคนจะตัดสินใจวิ่ง ก็จะกลัวว่าวิ่งไม่ไหว .. จะตื่นมั้ย ?.., จะทำงานทันมั้ย?... จะทำได้มั้ย นั่งคิดๆไปชีวิตก็ผ่านไปอีกวัน.. จนเป็นเดือน .. เป็นปี .... คือถ้าตัดคิดออก...แล้วไปเริ่มวิ่งป่านนี้อาจวิ่งได้เป็นหลายสิบกิโลแล้ว( ฮาาา..) ชีวิตคนเราก็เหมือนกัน ... มัวแต่เอาเวลามานั่งคิดกังวลนั่น กลัวนี่. ไม่กล้าเปลี่ยนแปลง ไม่กล้าเริ่มต้นอะไรใหม่ๆให้ชีวิต ไม่กล้าที่จะสร้างความแตกต่าง ... จงเอาเวลา และพลังงานเหล่านั้นไปเริ่มต้นลงมือทำดีกว่ามั้ยครับ ถ้าเริ่มอาจสำเร็จไปนานแล้ว... แต่ไม่เริ่ม ทุกอย่างเท่ากับที่เดิม..... เริ่มเลยครับ เริ่มที่ออกกำลังกายนี่แหละ เริ่มจากวิ่งง่ายๆ ไม่เสียตังค์ครับ ...........;
-
เมื่อเช้านี้ที่สวนลุม วันนี้แดดไม่มี วิ่งอย่างใจเย็นและมีความสุข เพื่อเตรียมร่างกายกับพัทยามาราธอนวันอาทิตย์นี้ วันนี้ด้วยความชิวๆ ผมฟังเพลงจากราชาเพลงป๊อบ ชื่อก้องโลก Michael Jackson (1958-2009) ผู้ซึ่ง เคยมีผู้กล่าวว่าเขาคือของขวัญที่พระเจ้าประทานให้แก่มวลมนุษยชาติ......................... เพลงของ MJ เพลงนั้นชื่อ Man in the mirror. (คนที่อยู่ในกระจก) จากงานเดี่ยวชุดที่ 7 ( BAD ) ของเขา เพลงนี้ถูกเปิดเมื่อปี 1988 (2531) และเคยขึ้นอันดับ1 บิลบอร์ดที่ USA ถึง2 สัปดาห์ ที่สำคัญที่สุดเป็นเพลงโปรดที่สุด...นับตั้งแต่ที่ผมเกิดมาบนโลกแล้วรู้จักคำว่าเพลง...................... เล่ามาซะยาวแค่จะบอกว่า เรามักจะอยากเปลี่ยนโลก. อยากเปลี่ยนสังคมให้ดี. อยากเปลี่ยนคนนั้น. อยากเปลี่ยนคนนี้ ........... แต่น้อยคนมากที่คิดว่าคนที่ต้องเปลี่ยนก่อนคนแรกไม่ใช่ใครที่ไหน. ........ คือคนที่อยู่ในกระจกนั่นเอง...... สร้างความแตกต่างเถอะครับ ..... เราคือทางออกเดียวของชีวิตเราเอง ... อะไรที่มันดีกับชีวิต. เริ่มต้นเสีย..... ไม่ต้องแข่งกับใคร เปรียบเทียบกับตัวเอง แค่คิดว่าวันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน.... ชั่วโมงนี้ ต้องดีกว่าชั่วโมงที่ผ่านมา ......... แค่นี้แหละครับ ไม่ว่าเราทำอะไร เราสำเร็จแน่นอนครับ ..... Make that change..; -
เช้านี้ที่สวนลุม... วันนี้อากาศดีเช่นทุกวัน .. สดชื่นเหมือนทุกๆวัน เมื่อเราอยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ๆ เราจะรู้สึกตัวเล็กอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกเข้าใจชีวิต.. เสียงนกดังสลับเสียงเพลงจีนรำไท้เก็ก ผสมเสียงแตรรถมาเป็นระยะนี่คือเสน่ห์ของส่วนลุม ได้กลิ่นธรรมชาติ กลิ่นต้นไม้ กลิ่นดิน กลิ่นละอองน้ำ ที่พ่นฝอยจากสปริงเกอร์ในสวน สะท้อนกับแดดยามเช้า เกิดรุ้งกินน้ำขนาดย่อมๆ ภาพตัดสลับน้องเหี้ยเมียผัวว่ายน้ำหยอกล้อกันตามประสาคู่รัก คู่แม่ลูกเดินตามกันไปอาบแดดตอนเช้า เหี้ยบางตัวหน้ามึนๆ เดินมาให้คนตกใจเล่น แล้วก็ทำหน้ามึนๆแบบไม่แคร์สื่อจากไปโดยไม่มีเยื่อใย.. ................. ช่างมีความสุขจริงๆครับ กับการตั้งเป้าในการวิ่งให้ถึงจุดที่เราตั้งไว้ทุกวัน และเราก็ทำมันได้ โดยที่เราก็มีความสุขไปกับสิ่งรอบข้างที่อยู่ตรงหน้าด้วย............... ชีวิตคนเราก็เช่นกัน.... เราตั้งเป้าอะไรกับชีวิตก็ตาม จงมุ่งมั่น ไปให้ถึงคว้ามันให้ได้ แต่ก็อย่าลืมมีความสุขกับปัจจุบัน มีความสุขกับสิ่งที่อยู่ระหว่างทางด้วย .... เหมือนเราจะมุ่งหน้าไปเด็ดดอกไม้กลางสวน .......ก็อย่าลืมเดินดูใบหญ้า ดูผีเสื้อ และสูดกลิ่นธรรมชาติไปด้วยครับ ...; -
เช้านี้ที่สวนลุม... วันนี้ผมระหว่างวิ่งๆไป ผมคิดถึงคำๆนึง ที่เจ้านายเก่าผมท่านเคยสอนผมว่า "เมตตาเป็นของสูง ถ้าเราอยากอยู่สูงเราต้องมีเมตตา" ผมชอบคำนี้มาก ทุกวันนี้ยังจำมาใช้กับชีวิต ... เมตตาคือความรัก ความปราถนาดีให้ผู้อื่นมีความสุข อยากช่วยเหลือให้เขาหายทุกข์ ทุกๆศาสนา ล้วนสอนให้คนมีเมตตาทั้งนั้น ... เมตตาจะตรงข้ามกับ พยาบาท คือขัดเเค้นเคืองใจ ความเจ็บใจ ความผูกใจเจ็บ คิดแก้แค้น พวกเรา... ไปอยู่ที่สูงๆกันดีกว่าครับ สุขกว่ากันเยอะเรยยยยยยย... ^^; -
เช้านี้ที่สวนลุม... วันนี้ระหว่างวิ่ง. .. ผมเปิดเพลงฟังไปด้วย.. ก็ได้ฟังเพลงๆนึงของคณะ Black eyed peas ที่เคยโด่งดังมากชื่อเพลง Where is the love? รักอยู่ที่ไหน? ทำให้มานึกย้อนถึงชีวิตคนเราว่า ในทุกๆย่างก้าวของชีวิต ในที่ประชุมที่ทำงาน ? ในการพูดคุย การสื่อสาร ? ในครอบครัว? ใน นสพ ใน ทีวี ใน เวป ? เรามีความรักอยู่ในนั้นหรือไม่ ? หรือเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ? วันนี้ถ้าเรามีความรักอยู่ในทุกๆย่างก้าวของชีวิต. เราจะมีความสุขมากครับ เพราะเราจะไม่เกลียดชัง ไม่ตัดสินใคร เราจะพร้อมเข้าใจ และยอมรับ. และถ้าทุกคนสามารถทำได้สังคมที่เราอยู่. ประเทศที่เราอยู่ รวมไปถึงโลกที่เราอยู่. จะมีความสุขมากกกกกกกกก จนมนุษย์ต่างดาวอิจฉา. ..; -
ชีวิตมันก็เหมือนบทหนัง ดังนั้นจงเขียนตอนจบด้วยตัวเราเอง ..;
Instagram is a registered trademark of Instagram, inc.