ร้านอาหารนิวยอร์กตั้งกฎเหล็ก งดใช้อินสตาแกรมถ่ายภาพอาหาร

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก statigr.am

            ร้านอาหารนิวยอร์กหลายแห่งตั้งกฎเหล็ก งดใช้อินสตาแกรมถ่ายภาพอาหาร ชี้ทำลายบรรยากาศ และรบกวนแขกโต๊ะอื่น ๆ

            เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2556 หนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์ รายงานว่า ร้านอาหารในนิวยอร์กเริ่มบังคับใช้กฎเหล็ก ห้ามลูกค้าถ่ายรูปอาหารบนโต๊ะมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบางร้านถึงกับห้ามนำกล้องถ่ายรูปขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะ ซึ่งรวมถึงกล้องโทรศัพท์มือถือด้วย เพราะการถ่ายภาพบนโต๊ะอาหารทำให้เสียบรรยากาศเป็นอย่างมาก

            โดย เดวิด บูเลย์ เชฟและเจ้าของร้านอาหารบูเลย์ส ของมหานครนิวยอร์ก เปิดเผยว่า ได้นำกฎดังกล่าวมาใช้จริง และยอมให้ลูกค้าสามารถเดินมาถ่ายอาหารของตนเองในห้องครัวเท่านั้น เพราะพฤติกรรมที่จ้องจะถ่ายแต่รูปอาหารเป็นการกระทำที่สร้างความรำคาญไม่เพียงแต่กับผู้ร่วมโต๊ะเท่านั้น แต่ยังหมายถึงแขกโต๊ะอื่น ๆ รวมถึงเชฟด้วย เนื่องจากลูกค้ามัวแต่ถ่ายรูป ทำให้อาหารที่เชฟอุตส่าห์ปรุงแต่งออกมาอย่างพิถีพิถันต้องเย็นชืดจนเสียรสชาติไป

            นอกจากนี้ เดวิด บูเลย์ กล่าวต่อไปด้วยว่า ใคร ๆ ก็อยากถ่ายรูปที่ต้องการ และไม่ใส่ใจว่าการกระทำของตนจะส่งผลต่อคนรอบข้างอย่างไร ถือเป็นหายนะสำหรับการมาทานอาหาร ซึ่งจริง ๆ แล้วมีเป้าหมายเพื่อลิ้มรสดื่มด่ำกับรสชาติและเพลิดเพลินกับการสนทนากับคนรู้ใจ แต่การสร้างความทรงจำดี ๆ กลับกลายเป็นเรื่องที่ทำได้ยากทันที เมื่อพบว่ามีแสงแฟลชทั่วทุกที่ในร้านอาหาร

            อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่ใช่ร้านอาหารทุกแห่งที่ตั้งกฎเหล็กนี้ แต่บางแห่งเช่น Fat Duck, Le Bernadine, และ Per Se ก็มีนโยบายสำคัญห้ามไม่ให้ลูกค้าใช้แสงแฟลชรบกวนลูกค้าโต๊ะอื่น ๆ โดยเด็ดขาด

            ทั้งนี้ สำหรับกระแสถ่ายรูปอาหารหรือที่รู้จักในนาม "ฟู้ดสตาแกรม" (foodstagram) ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ นับตั้งแต่ที่แอพพลิเคชั่นอินสตาแกรมเปิดตัวออกสู่ตลาดในปี 2553 โดยจากการสำรวจพบว่า ประชากรสหรัฐฯ ราว 25% แชร์ภาพถ่ายอาหารที่ตนเองทานโดยไม่มีจุดประสงค์ใดเป็นพิเศษ เพียงแค่ต้องการแสดงให้เห็นเท่านั้นว่าวันนี้ตนเองทานอะไรไปเท่านั้น โดยเฉพาะประเภทอาหารที่ได้รับการแชร์มากที่สุด คือ ของหวาน