อินทิรา เจริญปุระ
This is my truth, Tell me yours...
ของ ทราย เจริญปุระ
มี 748 คนชอบรูปนี้
-
Happy Meal!!! | อ่อมไก่กับหมูสามชั้นทอดน้ำปลา | ได้ข้าวเหนียวร้อนๆนะ หื้มมมมมม คือดีย์~~ | รอดูเร็วๆนี้ใน #อร่อยสร้างภาพ เนอะ ^^; -
มาละๆ ไปดูกัน | ตอนจบแย้ว~ :) #เรามีเรา #GMM25 #LoveSongLoveStory; -
คืนนี้ดูเรามีเรากันนะ | ตอนจบละ | 2ทุ่มจ้า ^^ #GMM25 #เรามีเรา | แคปชั่นไม่เกี่ยวกับรูป 555; -
เตรียมตัวทำงาน | เอามาอ่านซ้ำ :); -
The Danish Girl : มันดีแบบเลี่ยนๆอะ คือเรื่องมันดีอยู่แล้ว(โหย ผู้ชายที่ค้นพบตัวเองเมื่อร้อยปีก่อนนี้น่ะ แกรนด์นะ) แต่วิธีที่เลือกเอามาเล่าเราว่ามันประดิษฐ์ประดอยมากๆ จนจะไม่ใช่หนังชีวิตมนุษย์อะ เหมือนเป็นโชว์อะไรซักอย่าง แต่อาจเป็นเพราะเราเองไม่จูนกับการเล่าเรื่องของผกก.คนนี้ก็ได้มั้ง มันเลยดูยุบยิบยุ่บยั่บต่อลูกไม้ปักเลื่อมวิ้งๆอะไรจนหนังชีวิตที่ควรจะเป็นหนังชีวิตที่เล่าด้วยน้ำเสียงเรียบๆได้ กลายเป็นหนังกะเทยคัม เอาท์แบบที่คนคิดว่ากะเทยควรเป็น ไม่ใช่แบบที่เห็นเขาเป็นคน ซึ่งทำให้เราดูแล้วอึดอัด เอดดี้ทำหน้าที่ตัวเองได้ดีงามแบบไม่ต้องสงสัยฝีมืออยู่แล้ว นำเสนอการตีโจทย์แบบละเอียดดี แต่เราว่ามันโดน'จ้อง'โดยกล้องและโดยเซ็ทอัพมากเกินไป คือมันดูจงใจไปหมดเลย แบบ--มาดูเร้ววววว คนนี้เล่นเป็นTransนะพวกเรา อลิเซีย วิกันเดอร์สก็--ดีน่ะ คือตัวผัวมาเบอร์นี้ เมียก็ต้องเล่นเบอร์นี้แหละ เรากลับชอบบทเมียของสตีเฟ่น ฮอว์กินส์มากกว่า(เฟลิซิตี้ โจนส์เล่นไว้) แต่เมียมันดู--ไม่รู้ดิ ดูจริง ดูอึดอัดคับข้องใจกว่านี้น่ะ สรุป เราผิดเองที่ควรจะอินมากกว่านี้แต่ไม่อิน 5555;
-
#maryishappymaryishappy; -
ฟิน; -
The Revenant : ว่าด้วยการบำเพ็ญทุกรกิริยาของพี่ลีโอ อยากรู้ว่าต้องใช้ความเชื่อใจกันเบอร์ไหน ถึงทำให้ดารามาร่วมแสดงในหนังที่มีข้อแม้ทะเยอทะยานขนาดนี้ได้ เข้าใจเลยว่าทำไมทอม ฮาร์ดี้มันเครียดขนาดที่ต้องขอบีบคอ ฟัดผู้กำกับบ้างเพื่อระบายอารมณ์ ว่าด้วยเรื่องของฮิวจ์ กลาส หัวหน้าทีมบุกเบิกงานค้าขนสัตว์(นึกภาพรพินทร์ ไพรวัลย์ในเมืองหนาวเอาเนาะ)ที่นำทริปไปแล้วประสบอุบัติเหตุฟัดกับหมี ลูกตาย แล้วเดินทางกลับเบสแคมป์เพื่อชำระแค้น(นี่ไม่สปอยล์ ดูตัวอย่างก็รู้หมดแล้ว) คือดูๆไปแล้วก็หนาวแทนพี่ลีโอ เป็นกูคงสติแตกตั้งแต่ถ่ายไปได้ซักครึ่งเรื่อง ความหนาวที่หลายๆคนเรียกร้อง อยากไปประสบพบเจอ ไม่ได้เป็นมิตรที่ดีสำหรับกองถ่าย คือเราชอบความหนาวเฉพาะเวลาที่เราได้ใส่ชุดอุ่น นอนอยู่บ้าน จิบกาแฟร้อนเก๋ๆหรือไปเที่ยวป๊อบแป๊บถ่ายรูป ไม่ใช่หนาวชิบหายแล้วต้องบำเพ็ญเพียร โดนหมีฟัด(ถึงจะเป็นหมีโมแคปก็เหอะ)แถกหน้าไปกับพื้น นอนน้ำลายฟูมปากใต้ผ้าห่มหนังสัตว์ หรือคลานไปบนพื้นหิมะอยู่ครึ่งเรื่องแบบพี่ลีโอ ต่อให้ทีมงานดูแลดียังไง แต่พอถึงเวลาถ่ายทำเราก็ต้องออกไปเดี่ยว ลากยาวแบบลองเทคน่ะ แค่คิดก็สยองแล้ว แต่นอกจากเรื่องความทะเยอทะยาน ใช้แต่แสงธรรมชาติ ลากคิวถ่ายออกไปเป็นเดือนๆ ถีบดาราเอลิสต์ของยุคไปตุปัดตุเป๋กลางหิมะแล้ว เราก็นึกไม่ออกว่าทำไมพี่ลีโอถึงควรจะได้ออสการ์จากบทนี้ มันเป็นงานโชว์ของสำหรับผู้กำกับและผู้กำกับภาพน่ะใช่ มันตื่นตาสำหรับคนดูก็ยังใช่ และโดยส่วนตัวเราว่าบทของทอม ฮาร์ดี้ในฐานะ'คนเลว'ก็น่าสนใจ ที่บทมันแบนมากๆ แต่ฮาร์ดี้ก็พยายามปลุกปล้ำให้ตัวละครมันน่าสนใจขึ้นมาจนได้ ทำให้เราเข้าข้างมันได้พอสมควรน่ะ ว่าไอ้ห่า ก็กูหนาว กูเหนื่อย กูอยากกลับบ้านนี่โว้ย แต่ในฐานะที่รักและติดตามพี่ลีโอมาตลอด จริงๆคิดว่าพี่ควรได้ออสการ์ตั้งแต่ตอนเล่นWhat's Eating Gilbert's Grapeแล้วด้วยซ้ำ แต่ถ้ามันไม่ได้มันก็ไม่ได้ และยิ่งถ้ามาได้จากเรื่องนี้ยิ่งไม่ควร ปีที่แล้วบทพี่ควรได้ยิ่งกว่านี้อีก พี่ยังไม่ได้เลย แต่เอาจริงๆพี่ลีโออาจจะ 'แร้วงัยคัยแคร์'ก็ได้นะ กูแค่อยากทำงานนี้ สนุกดี อยากลองนั่นลองนี่ก็เป็นไปได้(นี่คิดอย่างดาราด้วยกันนี่แหละ) แต่ด้วยสังคมนี่โคตรจะบิ๊วพี่เหลือเกินว่าพี่ต้องได้ๆๆๆ ซึ่งเราว่าถ้าพี่ได้จากเรื่องนี้แม่งไม่สมศักดิ์ศรีพระเอกเจ้าแห่งเมียตายเอาเสียเลย เพราะอย่างที่รู้กันดี พระพุทธเจ้าไม่ได้พบทางหลุดพ้นด้วยการทรมานตนฉันใด พี่ลีโอก็ไม่น่าจะได้ออสการ์จากการอุทิศร่างกายในการตามหาลูกชายก็ฉันนั้น (ปีนี้อิชั้นเชียร์ฟาสเบนเดอร์ฮ่ะ); -
จะมาแล้ว ดูกันๆๆ (ชอบรูปนี้ ถ่ายกับมะ พี่ป๊อปคอสตูมถ่ายให้^^) #เรามีเรา #GMM25; -
พรุ่งนี้ออนแอร์วันแรก :)) #เรามีเรา #LoveSongLoveStory เรากับมะเดี่ยว(ผกก.)อายุเท่ากัน ปีที่มะได้ฟังเพลงนี้ เราก็ได้ฟังเหมือนกัน และเพลงก็ติดอยู่ในใจชนิดที่ว่าแค่ขึ้นอินโทรมา3-4โน้ตเราก็ร้องได้แล้ว ไม่รู้ว่าองค์ประกอบอะไรบ้าง ที่ทำให้เพลงเพลงนึงสำคัญหรือติดตรึงอยู่ในใจของใครบางคนไปตลอด สำหรับเรา เพลงนี้คือเนื้อเพลงที่ว่า 'หนทางยังอยู่แสนไกลจากวันนี้' ตอนเด็กๆที่ฟัง รู้สึกว่าเราคงจะกุมมือใครสักคนไปที่สุดปลายสายรุ้ง เพียงเรามีเรา หากจะเดินไปทางใดไม่หวั่นได้จริงๆ แต่พอโตขึ้นมา 'หนทางยังอยู่แสนไกลจากวันนี้'มันกลับมีความหมายอีกอย่าง ยังมีหนทางที่เราต้องเดินต่อ ไม่ว่าจะเหลือใครสักกี่คนในชีวิต หรือแม้มีเพียงเราคนเดียวก็ยังต้องเดินไป วันเวลาของเรายังมีอยู่ เราเท่านั้นคือคนที่ต้องออกเดิน ความสำคัญของเพลงนี้ที่มีต่อตัวละครของวีระและณิกาก็คงเป็นอย่างนั้น เพลงที่มีความหมายกับเราจะมีความหมายอยู่เสมอ แม้น้ำหนักในความหมายจะกลายเป็นอะไรไปก็ตาม :)) ฝากดูกันด้วยนะ #gmm25;
-
yeah~ | The Big Short; -
มีความนุ่มนวลละมุนนี | แอนมัมฟีลลิ่งมากๆ | วันพฤหัสนี้อีพีแรกออนแอร์นะคะ | Love song love story #เรามีเรา #gmm25; -
เก๊าหนาว >_<; -
Good Morning from Coffee•Tree <3 | กองทัพแอปเปิล ครัมเบิล มัฟฟินกำลังรอคุณอยู่นะ :)); -
ไม่รู้ว่าจะมีสักกี่เหตุผล ที่ทำให้คนอยากมาเยือนกัมพูชา แต่ฉันว่าหนึ่งในหลากหลายเหตุผลนั่นคงรวมเอาการมาเยือนนครวัดเอาไว้ด้วยแน่ๆ “See Angkor and Die" ประโยคอมตะนี้ที่ Arnold Joseph Toynbee นักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีชาวอังกฤษเป็นผู้กล่าวไว้หลังจากที่ได้มาเยือนนครวัด แล้วพบว่ามันช่างยิ่งใหญ่เสียเหลือเกิน 'จริงอยู่ที่ว่าสีเลื่อมทอง หรือสีสันพรรณรายใดๆ เลือนหายไปจนแทบไม่ปรากฏ เห็นคงอยู่ก็แต่หินผา หากแผ่นหินที่มีชีวิตยังบอกกล่าวเรื่องราวได้อย่างสง่างามยิ่ง เหล่านี้มิใช่หรือคือแรงสร้างสรรค์ คือพลัง คือความมานะอดทน คือยอดฝีมือ คือความรุ่มรวย และอำนาจของชนชาติเขมรหรือชาวกัมพูชาแต่ครั้งอดีต' * 'สวย'คงเป็นคำที่ทั้งห้วนสั้นและแห้งแล้งเสียเหลือเกิน เมื่อเทียบกับความอลังการของสถานที่ งานแกะสลักหินที่แกะกันเป็นลายลูกไม้ได้ขนาดนั้น ทั้งก่อสูงและแผ่กว้างได้เช่นที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าฉัน ฝาผนังระเบียงคดที่บรรจุเนื้อหาความเกรียงไกรของชนชาติ ตำนาน และชีวิตผู้คนในอาณาจักร นางอัปสรายิ้มเย็นอยู่ตรงนั้นตรงนี้ ชวนนึกถึงเรื่องสั้นของอาจารย์หม่อมคึกฤทธิ์ที่เขียนถึงนักแกะหินคนนึงมาก เรื่องราวที่ซ้อนอยู่ในเรื่องราวของการสร้างและการค้นพบ การมองเห็นด้วยตาของนักท่องเที่ยวและนักสำรวจนั้นคงต่างกัน มกราคม ค.ศ.1860 อ็องรี มูโอต์ได้มาถึงที่นี่ อายุเขาเท่ากับฉันในวันนี้พอดี 'บนเส้นรุ้งที่14องศา และเส้นแวงที่102องศาทางทิศตะวันออกของกรุงปารีสในเขตหัวเมืองชื่อเดียวกันนี้ ปรากฏซากโบราณสถานอันงดงามอลังการ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของโตนเลสาบ เป็นผลงานสร้างสรรค์อันยิ่งใหญ่ เพียงได้เห็นก็เกิดความรู้สึกชื่นชมอย่างลึกซึ้ง จนเราอดตั้งคำถามไม่ได้ว่า เกิดอะไรขึ้นกับประชาชาติที่ทรงอำนาจ ทรงภูมิปัญญา และมั่งคั่งด้วยอารยธรรมซึ่งเรายกย่องให้เป็นเจ้าของผลงานสุดอลังการนี้' * อ็องรี มูโอต์ไม่ใช่นายทหารหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ และยิ่งไม่ใช่บาทหลวงที่มาเผยแพร่ศาสนาและแสงสว่างจากตะวันตกอย่างที่มักจะเป็น เมื่อชาวต่างชาติในสมัยนั้นเดินทางเข้าสู่ซีกโลกตะวันออก อ็องรีเป็นนักสำรวจ เป็นชายหนุ่มซึ่งแฝงไปด้วยความฝันอย่างโรแมนติกของผู้ค้นพบ ด้วยความรู้ด้านภาษาและความสนใจในธรรมชาติวิทยา อ็องรีเดินทางมาไกลเพื่อบันทึกและเก็บสิ่งที่เขาค้นพบในฟากฝั่งอันลี้ลับอีกครึ่งโลกจากบ้านเกิด เขาเดินทางเข้าสยาม สำรวจ สงสัย และแสดงความคิดเห็นระเรื่อยไปจากเมืองบางกอก สู่เขตแดนกัมพูชา กลับเข้าสยามอีกครั้ง ก่อนจบชีวิตนักเดินทางอันแสนสั้นและเปี่ยมไฟของเขาที่ริมแม่น้ำในเมืองหลวงพระบาง #การรีวิวหนังสือคืองานอันโดดเดี่ยว;
Instagram is a registered trademark of Instagram, inc.