อินทิรา เจริญปุระ
This is my truth, Tell me yours...
ของ ทราย เจริญปุระ
มี 801 คนชอบรูปนี้
-
The Revenant : ว่าด้วยการบำเพ็ญทุกรกิริยาของพี่ลีโอ อยากรู้ว่าต้องใช้ความเชื่อใจกันเบอร์ไหน ถึงทำให้ดารามาร่วมแสดงในหนังที่มีข้อแม้ทะเยอทะยานขนาดนี้ได้ เข้าใจเลยว่าทำไมทอม ฮาร์ดี้มันเครียดขนาดที่ต้องขอบีบคอ ฟัดผู้กำกับบ้างเพื่อระบายอารมณ์ ว่าด้วยเรื่องของฮิวจ์ กลาส หัวหน้าทีมบุกเบิกงานค้าขนสัตว์(นึกภาพรพินทร์ ไพรวัลย์ในเมืองหนาวเอาเนาะ)ที่นำทริปไปแล้วประสบอุบัติเหตุฟัดกับหมี ลูกตาย แล้วเดินทางกลับเบสแคมป์เพื่อชำระแค้น(นี่ไม่สปอยล์ ดูตัวอย่างก็รู้หมดแล้ว) คือดูๆไปแล้วก็หนาวแทนพี่ลีโอ เป็นกูคงสติแตกตั้งแต่ถ่ายไปได้ซักครึ่งเรื่อง ความหนาวที่หลายๆคนเรียกร้อง อยากไปประสบพบเจอ ไม่ได้เป็นมิตรที่ดีสำหรับกองถ่าย คือเราชอบความหนาวเฉพาะเวลาที่เราได้ใส่ชุดอุ่น นอนอยู่บ้าน จิบกาแฟร้อนเก๋ๆหรือไปเที่ยวป๊อบแป๊บถ่ายรูป ไม่ใช่หนาวชิบหายแล้วต้องบำเพ็ญเพียร โดนหมีฟัด(ถึงจะเป็นหมีโมแคปก็เหอะ)แถกหน้าไปกับพื้น นอนน้ำลายฟูมปากใต้ผ้าห่มหนังสัตว์ หรือคลานไปบนพื้นหิมะอยู่ครึ่งเรื่องแบบพี่ลีโอ ต่อให้ทีมงานดูแลดียังไง แต่พอถึงเวลาถ่ายทำเราก็ต้องออกไปเดี่ยว ลากยาวแบบลองเทคน่ะ แค่คิดก็สยองแล้ว แต่นอกจากเรื่องความทะเยอทะยาน ใช้แต่แสงธรรมชาติ ลากคิวถ่ายออกไปเป็นเดือนๆ ถีบดาราเอลิสต์ของยุคไปตุปัดตุเป๋กลางหิมะแล้ว เราก็นึกไม่ออกว่าทำไมพี่ลีโอถึงควรจะได้ออสการ์จากบทนี้ มันเป็นงานโชว์ของสำหรับผู้กำกับและผู้กำกับภาพน่ะใช่ มันตื่นตาสำหรับคนดูก็ยังใช่ และโดยส่วนตัวเราว่าบทของทอม ฮาร์ดี้ในฐานะ'คนเลว'ก็น่าสนใจ ที่บทมันแบนมากๆ แต่ฮาร์ดี้ก็พยายามปลุกปล้ำให้ตัวละครมันน่าสนใจขึ้นมาจนได้ ทำให้เราเข้าข้างมันได้พอสมควรน่ะ ว่าไอ้ห่า ก็กูหนาว กูเหนื่อย กูอยากกลับบ้านนี่โว้ย แต่ในฐานะที่รักและติดตามพี่ลีโอมาตลอด จริงๆคิดว่าพี่ควรได้ออสการ์ตั้งแต่ตอนเล่นWhat's Eating Gilbert's Grapeแล้วด้วยซ้ำ แต่ถ้ามันไม่ได้มันก็ไม่ได้ และยิ่งถ้ามาได้จากเรื่องนี้ยิ่งไม่ควร ปีที่แล้วบทพี่ควรได้ยิ่งกว่านี้อีก พี่ยังไม่ได้เลย แต่เอาจริงๆพี่ลีโออาจจะ 'แร้วงัยคัยแคร์'ก็ได้นะ กูแค่อยากทำงานนี้ สนุกดี อยากลองนั่นลองนี่ก็เป็นไปได้(นี่คิดอย่างดาราด้วยกันนี่แหละ) แต่ด้วยสังคมนี่โคตรจะบิ๊วพี่เหลือเกินว่าพี่ต้องได้ๆๆๆ ซึ่งเราว่าถ้าพี่ได้จากเรื่องนี้แม่งไม่สมศักดิ์ศรีพระเอกเจ้าแห่งเมียตายเอาเสียเลย เพราะอย่างที่รู้กันดี พระพุทธเจ้าไม่ได้พบทางหลุดพ้นด้วยการทรมานตนฉันใด พี่ลีโอก็ไม่น่าจะได้ออสการ์จากการอุทิศร่างกายในการตามหาลูกชายก็ฉันนั้น (ปีนี้อิชั้นเชียร์ฟาสเบนเดอร์ฮ่ะ); -
จะมาแล้ว ดูกันๆๆ (ชอบรูปนี้ ถ่ายกับมะ พี่ป๊อปคอสตูมถ่ายให้^^) #เรามีเรา #GMM25; -
พรุ่งนี้ออนแอร์วันแรก :)) #เรามีเรา #LoveSongLoveStory เรากับมะเดี่ยว(ผกก.)อายุเท่ากัน ปีที่มะได้ฟังเพลงนี้ เราก็ได้ฟังเหมือนกัน และเพลงก็ติดอยู่ในใจชนิดที่ว่าแค่ขึ้นอินโทรมา3-4โน้ตเราก็ร้องได้แล้ว ไม่รู้ว่าองค์ประกอบอะไรบ้าง ที่ทำให้เพลงเพลงนึงสำคัญหรือติดตรึงอยู่ในใจของใครบางคนไปตลอด สำหรับเรา เพลงนี้คือเนื้อเพลงที่ว่า 'หนทางยังอยู่แสนไกลจากวันนี้' ตอนเด็กๆที่ฟัง รู้สึกว่าเราคงจะกุมมือใครสักคนไปที่สุดปลายสายรุ้ง เพียงเรามีเรา หากจะเดินไปทางใดไม่หวั่นได้จริงๆ แต่พอโตขึ้นมา 'หนทางยังอยู่แสนไกลจากวันนี้'มันกลับมีความหมายอีกอย่าง ยังมีหนทางที่เราต้องเดินต่อ ไม่ว่าจะเหลือใครสักกี่คนในชีวิต หรือแม้มีเพียงเราคนเดียวก็ยังต้องเดินไป วันเวลาของเรายังมีอยู่ เราเท่านั้นคือคนที่ต้องออกเดิน ความสำคัญของเพลงนี้ที่มีต่อตัวละครของวีระและณิกาก็คงเป็นอย่างนั้น เพลงที่มีความหมายกับเราจะมีความหมายอยู่เสมอ แม้น้ำหนักในความหมายจะกลายเป็นอะไรไปก็ตาม :)) ฝากดูกันด้วยนะ #gmm25; -
yeah~ | The Big Short; -
มีความนุ่มนวลละมุนนี | แอนมัมฟีลลิ่งมากๆ | วันพฤหัสนี้อีพีแรกออนแอร์นะคะ | Love song love story #เรามีเรา #gmm25;
-
เก๊าหนาว >_<; -
Good Morning from Coffee•Tree <3 | กองทัพแอปเปิล ครัมเบิล มัฟฟินกำลังรอคุณอยู่นะ :)); -
ไม่รู้ว่าจะมีสักกี่เหตุผล ที่ทำให้คนอยากมาเยือนกัมพูชา แต่ฉันว่าหนึ่งในหลากหลายเหตุผลนั่นคงรวมเอาการมาเยือนนครวัดเอาไว้ด้วยแน่ๆ “See Angkor and Die" ประโยคอมตะนี้ที่ Arnold Joseph Toynbee นักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีชาวอังกฤษเป็นผู้กล่าวไว้หลังจากที่ได้มาเยือนนครวัด แล้วพบว่ามันช่างยิ่งใหญ่เสียเหลือเกิน 'จริงอยู่ที่ว่าสีเลื่อมทอง หรือสีสันพรรณรายใดๆ เลือนหายไปจนแทบไม่ปรากฏ เห็นคงอยู่ก็แต่หินผา หากแผ่นหินที่มีชีวิตยังบอกกล่าวเรื่องราวได้อย่างสง่างามยิ่ง เหล่านี้มิใช่หรือคือแรงสร้างสรรค์ คือพลัง คือความมานะอดทน คือยอดฝีมือ คือความรุ่มรวย และอำนาจของชนชาติเขมรหรือชาวกัมพูชาแต่ครั้งอดีต' * 'สวย'คงเป็นคำที่ทั้งห้วนสั้นและแห้งแล้งเสียเหลือเกิน เมื่อเทียบกับความอลังการของสถานที่ งานแกะสลักหินที่แกะกันเป็นลายลูกไม้ได้ขนาดนั้น ทั้งก่อสูงและแผ่กว้างได้เช่นที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าฉัน ฝาผนังระเบียงคดที่บรรจุเนื้อหาความเกรียงไกรของชนชาติ ตำนาน และชีวิตผู้คนในอาณาจักร นางอัปสรายิ้มเย็นอยู่ตรงนั้นตรงนี้ ชวนนึกถึงเรื่องสั้นของอาจารย์หม่อมคึกฤทธิ์ที่เขียนถึงนักแกะหินคนนึงมาก เรื่องราวที่ซ้อนอยู่ในเรื่องราวของการสร้างและการค้นพบ การมองเห็นด้วยตาของนักท่องเที่ยวและนักสำรวจนั้นคงต่างกัน มกราคม ค.ศ.1860 อ็องรี มูโอต์ได้มาถึงที่นี่ อายุเขาเท่ากับฉันในวันนี้พอดี 'บนเส้นรุ้งที่14องศา และเส้นแวงที่102องศาทางทิศตะวันออกของกรุงปารีสในเขตหัวเมืองชื่อเดียวกันนี้ ปรากฏซากโบราณสถานอันงดงามอลังการ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของโตนเลสาบ เป็นผลงานสร้างสรรค์อันยิ่งใหญ่ เพียงได้เห็นก็เกิดความรู้สึกชื่นชมอย่างลึกซึ้ง จนเราอดตั้งคำถามไม่ได้ว่า เกิดอะไรขึ้นกับประชาชาติที่ทรงอำนาจ ทรงภูมิปัญญา และมั่งคั่งด้วยอารยธรรมซึ่งเรายกย่องให้เป็นเจ้าของผลงานสุดอลังการนี้' * อ็องรี มูโอต์ไม่ใช่นายทหารหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ และยิ่งไม่ใช่บาทหลวงที่มาเผยแพร่ศาสนาและแสงสว่างจากตะวันตกอย่างที่มักจะเป็น เมื่อชาวต่างชาติในสมัยนั้นเดินทางเข้าสู่ซีกโลกตะวันออก อ็องรีเป็นนักสำรวจ เป็นชายหนุ่มซึ่งแฝงไปด้วยความฝันอย่างโรแมนติกของผู้ค้นพบ ด้วยความรู้ด้านภาษาและความสนใจในธรรมชาติวิทยา อ็องรีเดินทางมาไกลเพื่อบันทึกและเก็บสิ่งที่เขาค้นพบในฟากฝั่งอันลี้ลับอีกครึ่งโลกจากบ้านเกิด เขาเดินทางเข้าสยาม สำรวจ สงสัย และแสดงความคิดเห็นระเรื่อยไปจากเมืองบางกอก สู่เขตแดนกัมพูชา กลับเข้าสยามอีกครั้ง ก่อนจบชีวิตนักเดินทางอันแสนสั้นและเปี่ยมไฟของเขาที่ริมแม่น้ำในเมืองหลวงพระบาง #การรีวิวหนังสือคืองานอันโดดเดี่ยว; -
Into The Darkest Corner : ตั้งแต่โลกหนังสือผุดนังอเมซิ่ง เอมี่ในGone Girlขึ้นมา วิธีเล่าเรื่องผ่านผู้หญิงคนเดียวกันจากปลายสุดของเหตุการณ์2ด้านก็โผล่ขึ้นมาเรื่อยๆ ดีบ้างเนือยบ้างก็ว่ากันไป ก่อนหน้านี้เพิ่งได้อ่านThe Girl On The Train(ปมหลอน รางมรณะ)ไปได้ไม่นาน ของเขย่าขวัญเล่มนี้ก็ออกมา โดยวางโครงที่ทั้งคล้ายกันเองและคล้ายGone Girlไปในเวลาเดียวกัน คือเรื่องเล่าที่มีความคลุมเครือในตัวเอง ไล่Time Lineจากอดีตมาสู่ปัจจุบัน นางเอกในเรื่องนี้(ของเขย่าขวัญ)ป่วยเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำและPTSD ซึ่งหนังสือก็จะทำให้เห็นทั้งความน่ารำคาญของอาการเธอไปพร้อมๆกับแสดงเหตุผลว่าทำไมเธอถึงเป็นบ้าไปได้ขนาดนี้ ตัวร้ายของเรื่องน่ากลัวอยู่เหมือนกัน คือผู้ชายที่มีความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของสูง หึงตะบี้ตะบันแล้วคนรอบตัวก็บอกว่า'ถ้าเค้าไม่รัก เค้าไม่หึงหรอก' ซึ่งสำหรับเรานี่เป็นความเข้าใจ/ปลอบใจตัวเองที่โง่มาก รักประสาอะไรต้องมาเป็นเจ้าชีวิต และคนแบบไหนถึงชอบให้คนมาตามคลุ้มคลั่งจิกเป็นไก่ได้ตลอดเวลา แต่เอาเถอะ ก็ด้วยความเข้าใจว่า'เพราะรักจึงหึง' ทำให้นิยายเรื่องนี้มันมีอยู่ ซึ่งก็ถือว่าไม่เกินความจริงแต่อย่างใด เราเห็นกันได้จากชีวิตคนรอบตัว กระทู้พันทิป และข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ เรียงจากความเบาของสถานการณ์ไปหาหนัก คือจากเริ่มปรึกษาคนรอบตัว ไปจนถึงฆ่ากันตายในที่สุด ถามว่าสนุกไหม ก็สนุกดีอยู่นะ มันให้ความรู้สึกลุ้น มากกว่าจะสนุกกับการเฉลยปม เพราะหนังสือก็บอกอยู่แล้วว่าใครเป็นใครตั้งแต่แรก ที่เหลือคือมาลุ้นว่าความรุนแรงมันจะพัฒนาไปได้ถึงไหน และจะรับมือยังไงกับความรัก(?)ที่เกินพอดีแบบนี้ ใครเคยดูหนังเรื่องEnoughที่เจ.โลเล่นก็ประมาณนั้นแหละสำหรับเล่มนี้ สรุป : สนุกดี ไม่ขี้เหร่ ถ้าGone Girlคือคะแนนเต็ม10 เล่มนี้เราให้7นะ ลองเทียบสัดส่วนความคุ้มค่าดูจ้า #การรีวิวหนังสือคืองานอันโดดเดี่ยว; -
ประพฤติตนเป็นพี่สาวที่ดี | น้องอยากดูหนังสยองแต่ไม่กล้าดูคนเดียว | ชั้นเป็นพี่สาวจิตแข็งเลยมาปกป้องนาง 5555;
Instagram is a registered trademark of Instagram, inc.