สวิช เพชรวิเศษศิริ
ติดต่องาน0816664491 ถ้ามีใครแอบอ้าง เป็นผู้จัดการ..โปรดระวัง! แจ้งความดำเนินคดีได้ทันที จะไม่รับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นทุกกรณี
ของ บี๋ สวิช
มี 104 คนชอบรูปนี้
-
ทานอะไรยามเช้าหรือยัง?; -
วิธีกำจัดสิวเสี้ยนที่จมูกแบบง่ายๆ สิวหลุด จมูกไม่แดง!! ขอแนะนำวิธีกำจัดสิวเสี้ยนที่จมูกแบบง่ายๆ เชื่อแน่ว่าทุกคนน่าจะมีปัญหาสิวเสี้ยนตามจุดต่างๆ บนใบหน้า โดยเฉพาะที่จมูกก็เลยมีวิธีกำจัดสิวเสี้ยนที่จมูกแบบง่ายที่สุดมาบอกกันจ้า! อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม 1. ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นบิดหมาด 2. เกลือเม็ดละเอียด อย่างของเกลือปรุงทิพย์ก็ได้ 3. น้ำมะนาว 1 ซีก 4. น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา วิธีทำ 1. เริ่มจากเอาผ้าขนหนูอุ่นโป๊ะที่จมูกซัก 10 นาที เพื่อให้สิวเสี้ยนที่เป็นไขมันที่อยู่ ในรูขุมขนโผล่ออกมาเจออากาศ มันจะเป็นก้อนแข็งๆ เพราะงั้นเราเลยต้องมา ละลายไขมันอุดตันด้วยความร้อนจากผ้า 2. พอไขมันเริ่มเหลวๆ ไหลออกมาเล็กน้อย เพื่อให้รูขุมขนเปิดซะก่อน 3. แล้วเอาเกลือ น้ำมะนาว น้ำผึ้ง ที่ผสมกันแล้ว มาโป๊ะแล้วนวด แบบเบามือ คลึงเบาๆ ซัก 10 นาที 4. หลังจากนั้นใช้ผ้าขนหนูอุ่นอันเดิมเช็ดออกเบาๆ 5. แล้วล้างหน้าด้วยน้ำปกติเพื่อให้รูขุมขนหดตัวลง!!....ลองดูนะคร้าบ!; -
เตะบอล ลดพุงบ้าง555; -
ไปไหน รถก็ติด!.; -
;
-
โอ๊ะโอ่... ทราบกันหรือไม่คะว่า เมื่อเราๆ ท่านๆ อายุเกิน 20 ปีไปแล้ว สมองจะเสื่อมลงเรื่อยๆ แต่ผลงานงานวิจัยของ “ดร.แจ๊ก เลวิส” นักประสาทวิทยาชาวอังกฤษ ได้เขียนเกี่ยวกับการชะลอความแก่ของสมองเอาไว้ได้อย่างน่าสนใจ เป็นวิธีการ 3 ข้อที่เข้าใจง่าย ปฏิบัติไม่ยาก และช่วยทำให้สมองของทุกๆ คนฟิตปั๋งอยู่เสมอ เราไปลองดูกันว่า 3 ข้อนี้มีอะไรบ้างค่ะ 1. ลดสารอนุมูลอิสระที่เข้าสู่ร่างกาย นอกจากสารนี้จะทำให้สภาพร่างกายเสื่อมถอยแล้ว มันจะยังเข้าไปแทรกในเนื้อสมองอีกด้วย ซึ่งการได้รับสารตัวร้ายนี้มาจากหลายทาง เช่น การทานอาหารที่มีไขมันสูง มลพิษต่างๆ เช่น ควันท่อไอเสียรถ เครื่องจักรอุตสาหกรรม รวมทั้งการสูบบุหรี่ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงสถานที่ที่ก่อมลพิษหรือหาอุปกรณ์ป้องกัน ทานเนื้อแดงให้น้อยลง เน้นผักผลไม้ให้มากขึ้น และลดละการสูบบุหรี่ 2. ออกกำลังกาย สมองจำเป็นต้องมีเลือดและออกซิเจนผ่านตลอดเวลาเพื่อให้การทำงานเป็นปกติ หากมีไม่เพียงพออาจเกิดภาวะอุดตันของเส้นเลือดสมอง ดังนั้นการออกกำลังกายจะช่วยให้หัวใจสูบฉีดเลือดได้เต็มที่ หลอดเลือดลำเลียงลำเลียงออกซิเจนและอาหารไปยังเซลล์สมองได้มีประสิทธิภาพ แต่ยังไงก็ออกกำลังกายแต่พอเหมาะ อย่าหักโหมจนเกินไปนะครับ!! 3. งานอดิเรก สมองมีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงตัวเอง เปลี่ยนทิศทางการเชื่อมโยงของเซลล์สมองใหม่ รวมถึงการสร้างโครงข่ายของเซลล์สมองเพื่อรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ ทั้งนี้ Albert Einstein College of Medicine ในสหรัฐฯได้ทำการวิจัยพบว่า มีงานอดิเรก 4 อย่างที่จะช่วยทำให้สมองเสื่อมช้าลงหากทำอย่างสม่ำเสมอ ได้แก่ เล่นดนตรี เพราะการเล่นดนตรีต้องใช้ทักษะหลายอย่างที่ต้องสัมพันธ์กัน เช่น เป่าแซกโซโฟน ต้องใช้อวัยวะอย่างปาก นิ้ว ปอด ให้เกิดเป็นเสียงดนตรี และตาที่ต้องอ่านโน้ตเพลงไปพร้อมๆ กัน ความสัมพันธ์เหล่านี้เป็นการบริหารสมองที่ดีมาก เล่นหมากรุก เพราะการขบคิดถึงกลยุทธ์ในการพิชิตชัยบนกระดานนั้น ต้องใช้สมองส่วนหน้าที่สัมพันธ์กับ working memory ที่ยิ่งใช้มากเท่าไหร่ยิ่งดีต่อพัฒนาการของสติปัญญา เต้นรำ จะเต้นท่าไหน จังหวะบีกินหรือชะชะช่าก็ตามใจชอบ แต่ต้องเป็นการเต้นอย่างมีแบบแผน การเต้นรำจะต้องใช้อวัยวะให้สัมพันธ์กับทำนองเพลง ขณะเดียวกัน สมองจะหลั่งสารออกซิโทซินออกมา เพื่อให้สมองมีความผ่อนคลายอีกด้วย การอ่าน เป็นการผูกพยัญชนะรวมเป็นคำ จากคำกลายเป็นประโยคที่มีความหมาย สามารถจินตนาการตามเนื้อหาในหนังสือนั้นๆ ได้ ช่วยให้เซลล์สมองมีการจัดเรียงรูปแบบใหม่อยู่ตลอดเวลาเช่นเดียวกัน เมื่อทราบกันแล้ว ก็อย่าลืมนำ 3 ข้อนี้ไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันกันด้วยนะครับ !; -
ทำไรกัน?; -
รู้สึกเหมือนถูกโกง ดีเซลพรีเมี่ยมแพงกว่าลิตรละ3บาท แต่ต้นทุนแค่50สต.!!; -
ทายนิสัยจากเบอร์โทรศัพท์... ให้ท่านนำหมายเลขโทรศัพท์มาบวกกันเรื่อยๆจนได้เลขสุดท้าย เช่น 081-111-1111 = 0+8+1+1+1+1+1+1+1+1= 16 = 1+6 =7 ผลลัพภ์ของคุณคือ..เลขอะไรเอ่ย?? มาดูกันได้เลยจ้าาา หมายเลข>>1 เจ้าของเบอร์นี้เป็นคนมีอำนาจ ชอบเป็นผู้นำ ใจร้อน ขี้บ่น แต่โกรธง่ายหายเร็ว บางครั้งก็ใจง่าย โลเลเป็นตัวของตัวเอง ถ้าคุนมีแฟนเป็นหนุ่มเบอร์นี้ยอมๆเค้าหน่อยน่ะ หมายเลข>>2 เป็นคนอ่อนไหวง่าย เป็นคนมีเสห่น์ พูดเพราะ ชอบทำอะไรโดดเดี่ยวคนเดียวเงียบๆ บุคลิกภายนอก ดุ เข้มแข็ง แต่ภายในอ่อนไหว ( ดูแลเค้าหน่อยล่ะกันน่ะจ๊ะ) หมายเลข>>3 ออกไปทางแนวซ่าๆ แบ๊ดบอย แซซซี่เกิร์ล ชอบพูดเสียงดัง ทำตัวเป็นเอบีนอร์มอล(พูดไม่ค่อยเก่ง) เป็นนักกีฬาทำอะไรต้องทำให้สำเร็จ ไม่ทิ้งไว้คาราคาซัง ( ใครเป็นแฟนเค้าก็อย่าทำให้เค้าอารมณ์บ่จอยล่ะ) หมายเลข>>4 เป็นนักพูดตัวยง เป็นคนสนุกสนาน เจ้าชู้ มีเสน่ห์ ( สั้นๆแต่ได้ใจความนะจ๊ะ ) หมายเลข>>5 เป็นคนมีเหตุผล ไม่วู่วาม ขี้สงสาร ฉลาด มีปัญหาอะไรปรึกษาได้เลย ที่สำคัญเค้าไม่ชอบโกหกใคร ( เอาเป็นว่าใครมีแฟนแบบนี้ ยินดีด้วยน้า ) หมายเลข>>6 เจ้าของเบอร์นี้ร่ำรวยความรักที่พร้อมจะให้กับผู้อื่น ( เหมือนจะมีน้ำใจ ) เจ้าชู้นิดๆ มักจะหมดเงินไปกับการแต่งตัว และความบันเทิงทั้งหลาย ( จะดีใจไหมอ่ะ มีแฟนแบบนี้ ) หมายเลข>>7 ขี้ตกใจ ขี้กังวล เวลาโกรธมากๆ มักจะขาดสติ คำพูดของเค้ามักจะก่อให้เกิดศัตรูได้ ( ดูแลกันหน่อยละกันนะ ) หมายเลข>>8 หนุ่มสาวเบอร์นี้หลงคนง่าย ( ใจง่ายเอามากๆ ) หมายเลข>>9 เจ้าของเบอร์นี้เป็นคนประหลาดทำตัวเหมือนคนโบราน หรือเป็นผู้ใหญ่เกินอายุ ช่างคิด ( ว้า.. แย่จัง ) ของใครรวมเลขได้เลขอะไรบ้าง ?..ตรงมั้ยครับ?; -
** โดย… นพ.กฤษฎิ์ พฤกษะวัน ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ (เท้า-ข้อเท้า) โรงพยาบาลเวชธานี ใครหลาย ๆ คนที่ชื่นชอบกับการเล่นกีฬา ออกกำลังกาย หรือชอบใส่รองเท้าส้นสูงเป็นเวลานาน ๆ อาจจะทำให้ข้อเท้าพลิกได้ ซึ่งดูเหมือนเป็นอาการทั่ว ๆ ไป ที่สามารถเกิดขึ้นได้อยู่เป็นประจำ แต่ถ้าปล่อยปละละเลยทิ้งไว้นาน ๆ แล้วอาจส่งผลให้เกิดข้อเท้าหลวมได้ สาเหตุอาการข้อเท้าหลวม โดยส่วนใหญ่มักมีสาเหตุมาจากอุบัติเหตุข้อเท้าพลิก ซึ่งอาจเป็นในลักษณะของข้อเท้าพลิกซ้ำบ่อย ๆ หรือเกิดจากผลสืบเนื่องจากการรักษาที่ไม่เหมะสมหลังจากข้อเท้าพลิก เช่น การทำกายภาพบริหารกล้ามเนื้อรอบข้อเท้า หรือการบริหารระบบประสาทที่ป่วยในการทรวงตัวของข้อเท้าไม่เพียงพอ ซึ่งทำให้เอ็นข้อเท้ายืด เกิดอาการข้อเท้าหลวมตามมา สำหรับอาการผู้ป่วยมักมีอาการเดิน แล้วรู้สึกว่า ข้อเท้าทรุดหรือพลิกง่าย รู้สึกข้อเท้าไม่มั่นคง บางครั้งเดินเท้าเปล่าบนพื้นทรายหรือพื้นเรียบ เช่น พรมไม่ได้ ซึ่งไม่ได้มีอาการข้อเท้าหลวมเพียงอย่างเดียว หากพบว่า ยังมีอาการปวดร่วมด้วยต้องคำนึงถึงสาเหตุการบาดเจ็บอื่น ๆ ที่พบร่วมกันได้ อาทิ มีอาการเส้นเอ็นด้านนอกข้อเท้าฉีกขาด , มีรอยแผลที่กระดูกอ่อนในข้อเท้า , การได้รับบาดเจ็บของเส้นประสาทส่วนปลายเท้า กระดูกเท้าและข้อเท้าหัก เป็นต้น หากมีอาการมากขึ้นอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บของเส้นเอ็นนอกข้อเท้า ข้อเท้าเอียงผิดรูป และมีอาการข้อเท้าเสื่อมตามมาได้ ทั้งนี้หลักในการรักษาข้อเท้าหลวมนั้น จำเป็นต้องตระหนักว่า สาเหตุในการเกิดไม่ได้มีสาเหตุมาจากเอ็นข้อเท้ายืดหรือฉีกขาดเพียงอย่าง เดียว มักพบว่ามีปัญหาเส้นประสาทที่ทำหน้าที่ควบคุมการทรงตัวของข้อเท้า ความแข็งแรง และความยืดหยุ่นของเส้นนอกข้อเท้าร่วมด้วย ดังนั้นการรักษาที่จะทำให้ได้ผลดี ต้องคำนึงถึงองค์ประกอบดังกล่าวให้ครบถ้วน โดยทั่วไป สามารถพิจารณาให้การรักษาแบบอนุรักษ์นิยม (Conservotive Tredment) ได้แก่ – การฝึกบริหารเพิ่มความแข็งแรงของเอ็นบริเวณรอบข้อเท้า – การฝึกการควบคุมการทรงตัวของข้อเท้า – การใช้อุปกรณ์เสริม เช่น ที่รัดข้อเท้าทั้งแบบมีแกนด้านข้างและไม่มีแกนด้านข้าง – การใช้ยาเพื่อลดอาการอักเสบ หากการรักษาดังกล่าวไม่ได้ผลในช่วง ระยะเวลา 3 – 6 เดือน จึงพิจารณาให้การรักษาด้วยการผ่าตัดเข้าไปเย็บซ่อมแซมเส้นเอ็นส่วนที่เป็น ปัญหาดังกล่าว ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่า การรักษาข้อเท้าหลวมที่ดีที่สุดก็คือ การป้องกันไม่ให้เกิดและรักษาอาการพลิกตั้งแต่เริ่มแรกได้อย่างเหมาะสม จะช่วยลดปัญหาอาการข้อเท้าหลวมที่เกิดขึ้นได้!!..บทความดีๆหหวังว่าคงเป็นประโยชน์นะคร้าบ!!..คุณปู่เป็นห่วง!!;
Instagram is a registered trademark of Instagram, inc.