สวิช เพชรวิเศษศิริ
ติดต่องาน0816664491 ถ้ามีใครแอบอ้าง เป็นผู้จัดการ..โปรดระวัง! แจ้งความดำเนินคดีได้ทันที จะไม่รับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นทุกกรณี
ของ บี๋ สวิช
มี 194 คนชอบรูปนี้
-
โอ๊ะโอ่... ทราบกันหรือไม่คะว่า เมื่อเราๆ ท่านๆ อายุเกิน 20 ปีไปแล้ว สมองจะเสื่อมลงเรื่อยๆ แต่ผลงานงานวิจัยของ “ดร.แจ๊ก เลวิส” นักประสาทวิทยาชาวอังกฤษ ได้เขียนเกี่ยวกับการชะลอความแก่ของสมองเอาไว้ได้อย่างน่าสนใจ เป็นวิธีการ 3 ข้อที่เข้าใจง่าย ปฏิบัติไม่ยาก และช่วยทำให้สมองของทุกๆ คนฟิตปั๋งอยู่เสมอ เราไปลองดูกันว่า 3 ข้อนี้มีอะไรบ้างค่ะ 1. ลดสารอนุมูลอิสระที่เข้าสู่ร่างกาย นอกจากสารนี้จะทำให้สภาพร่างกายเสื่อมถอยแล้ว มันจะยังเข้าไปแทรกในเนื้อสมองอีกด้วย ซึ่งการได้รับสารตัวร้ายนี้มาจากหลายทาง เช่น การทานอาหารที่มีไขมันสูง มลพิษต่างๆ เช่น ควันท่อไอเสียรถ เครื่องจักรอุตสาหกรรม รวมทั้งการสูบบุหรี่ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงสถานที่ที่ก่อมลพิษหรือหาอุปกรณ์ป้องกัน ทานเนื้อแดงให้น้อยลง เน้นผักผลไม้ให้มากขึ้น และลดละการสูบบุหรี่ 2. ออกกำลังกาย สมองจำเป็นต้องมีเลือดและออกซิเจนผ่านตลอดเวลาเพื่อให้การทำงานเป็นปกติ หากมีไม่เพียงพออาจเกิดภาวะอุดตันของเส้นเลือดสมอง ดังนั้นการออกกำลังกายจะช่วยให้หัวใจสูบฉีดเลือดได้เต็มที่ หลอดเลือดลำเลียงลำเลียงออกซิเจนและอาหารไปยังเซลล์สมองได้มีประสิทธิภาพ แต่ยังไงก็ออกกำลังกายแต่พอเหมาะ อย่าหักโหมจนเกินไปนะครับ!! 3. งานอดิเรก สมองมีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงตัวเอง เปลี่ยนทิศทางการเชื่อมโยงของเซลล์สมองใหม่ รวมถึงการสร้างโครงข่ายของเซลล์สมองเพื่อรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ ทั้งนี้ Albert Einstein College of Medicine ในสหรัฐฯได้ทำการวิจัยพบว่า มีงานอดิเรก 4 อย่างที่จะช่วยทำให้สมองเสื่อมช้าลงหากทำอย่างสม่ำเสมอ ได้แก่ เล่นดนตรี เพราะการเล่นดนตรีต้องใช้ทักษะหลายอย่างที่ต้องสัมพันธ์กัน เช่น เป่าแซกโซโฟน ต้องใช้อวัยวะอย่างปาก นิ้ว ปอด ให้เกิดเป็นเสียงดนตรี และตาที่ต้องอ่านโน้ตเพลงไปพร้อมๆ กัน ความสัมพันธ์เหล่านี้เป็นการบริหารสมองที่ดีมาก เล่นหมากรุก เพราะการขบคิดถึงกลยุทธ์ในการพิชิตชัยบนกระดานนั้น ต้องใช้สมองส่วนหน้าที่สัมพันธ์กับ working memory ที่ยิ่งใช้มากเท่าไหร่ยิ่งดีต่อพัฒนาการของสติปัญญา เต้นรำ จะเต้นท่าไหน จังหวะบีกินหรือชะชะช่าก็ตามใจชอบ แต่ต้องเป็นการเต้นอย่างมีแบบแผน การเต้นรำจะต้องใช้อวัยวะให้สัมพันธ์กับทำนองเพลง ขณะเดียวกัน สมองจะหลั่งสารออกซิโทซินออกมา เพื่อให้สมองมีความผ่อนคลายอีกด้วย การอ่าน เป็นการผูกพยัญชนะรวมเป็นคำ จากคำกลายเป็นประโยคที่มีความหมาย สามารถจินตนาการตามเนื้อหาในหนังสือนั้นๆ ได้ ช่วยให้เซลล์สมองมีการจัดเรียงรูปแบบใหม่อยู่ตลอดเวลาเช่นเดียวกัน เมื่อทราบกันแล้ว ก็อย่าลืมนำ 3 ข้อนี้ไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันกันด้วยนะครับ !; -
ทำไรกัน?; -
รู้สึกเหมือนถูกโกง ดีเซลพรีเมี่ยมแพงกว่าลิตรละ3บาท แต่ต้นทุนแค่50สต.!!; -
ทายนิสัยจากเบอร์โทรศัพท์... ให้ท่านนำหมายเลขโทรศัพท์มาบวกกันเรื่อยๆจนได้เลขสุดท้าย เช่น 081-111-1111 = 0+8+1+1+1+1+1+1+1+1= 16 = 1+6 =7 ผลลัพภ์ของคุณคือ..เลขอะไรเอ่ย?? มาดูกันได้เลยจ้าาา หมายเลข>>1 เจ้าของเบอร์นี้เป็นคนมีอำนาจ ชอบเป็นผู้นำ ใจร้อน ขี้บ่น แต่โกรธง่ายหายเร็ว บางครั้งก็ใจง่าย โลเลเป็นตัวของตัวเอง ถ้าคุนมีแฟนเป็นหนุ่มเบอร์นี้ยอมๆเค้าหน่อยน่ะ หมายเลข>>2 เป็นคนอ่อนไหวง่าย เป็นคนมีเสห่น์ พูดเพราะ ชอบทำอะไรโดดเดี่ยวคนเดียวเงียบๆ บุคลิกภายนอก ดุ เข้มแข็ง แต่ภายในอ่อนไหว ( ดูแลเค้าหน่อยล่ะกันน่ะจ๊ะ) หมายเลข>>3 ออกไปทางแนวซ่าๆ แบ๊ดบอย แซซซี่เกิร์ล ชอบพูดเสียงดัง ทำตัวเป็นเอบีนอร์มอล(พูดไม่ค่อยเก่ง) เป็นนักกีฬาทำอะไรต้องทำให้สำเร็จ ไม่ทิ้งไว้คาราคาซัง ( ใครเป็นแฟนเค้าก็อย่าทำให้เค้าอารมณ์บ่จอยล่ะ) หมายเลข>>4 เป็นนักพูดตัวยง เป็นคนสนุกสนาน เจ้าชู้ มีเสน่ห์ ( สั้นๆแต่ได้ใจความนะจ๊ะ ) หมายเลข>>5 เป็นคนมีเหตุผล ไม่วู่วาม ขี้สงสาร ฉลาด มีปัญหาอะไรปรึกษาได้เลย ที่สำคัญเค้าไม่ชอบโกหกใคร ( เอาเป็นว่าใครมีแฟนแบบนี้ ยินดีด้วยน้า ) หมายเลข>>6 เจ้าของเบอร์นี้ร่ำรวยความรักที่พร้อมจะให้กับผู้อื่น ( เหมือนจะมีน้ำใจ ) เจ้าชู้นิดๆ มักจะหมดเงินไปกับการแต่งตัว และความบันเทิงทั้งหลาย ( จะดีใจไหมอ่ะ มีแฟนแบบนี้ ) หมายเลข>>7 ขี้ตกใจ ขี้กังวล เวลาโกรธมากๆ มักจะขาดสติ คำพูดของเค้ามักจะก่อให้เกิดศัตรูได้ ( ดูแลกันหน่อยละกันนะ ) หมายเลข>>8 หนุ่มสาวเบอร์นี้หลงคนง่าย ( ใจง่ายเอามากๆ ) หมายเลข>>9 เจ้าของเบอร์นี้เป็นคนประหลาดทำตัวเหมือนคนโบราน หรือเป็นผู้ใหญ่เกินอายุ ช่างคิด ( ว้า.. แย่จัง ) ของใครรวมเลขได้เลขอะไรบ้าง ?..ตรงมั้ยครับ?; -
** โดย… นพ.กฤษฎิ์ พฤกษะวัน ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ (เท้า-ข้อเท้า) โรงพยาบาลเวชธานี ใครหลาย ๆ คนที่ชื่นชอบกับการเล่นกีฬา ออกกำลังกาย หรือชอบใส่รองเท้าส้นสูงเป็นเวลานาน ๆ อาจจะทำให้ข้อเท้าพลิกได้ ซึ่งดูเหมือนเป็นอาการทั่ว ๆ ไป ที่สามารถเกิดขึ้นได้อยู่เป็นประจำ แต่ถ้าปล่อยปละละเลยทิ้งไว้นาน ๆ แล้วอาจส่งผลให้เกิดข้อเท้าหลวมได้ สาเหตุอาการข้อเท้าหลวม โดยส่วนใหญ่มักมีสาเหตุมาจากอุบัติเหตุข้อเท้าพลิก ซึ่งอาจเป็นในลักษณะของข้อเท้าพลิกซ้ำบ่อย ๆ หรือเกิดจากผลสืบเนื่องจากการรักษาที่ไม่เหมะสมหลังจากข้อเท้าพลิก เช่น การทำกายภาพบริหารกล้ามเนื้อรอบข้อเท้า หรือการบริหารระบบประสาทที่ป่วยในการทรวงตัวของข้อเท้าไม่เพียงพอ ซึ่งทำให้เอ็นข้อเท้ายืด เกิดอาการข้อเท้าหลวมตามมา สำหรับอาการผู้ป่วยมักมีอาการเดิน แล้วรู้สึกว่า ข้อเท้าทรุดหรือพลิกง่าย รู้สึกข้อเท้าไม่มั่นคง บางครั้งเดินเท้าเปล่าบนพื้นทรายหรือพื้นเรียบ เช่น พรมไม่ได้ ซึ่งไม่ได้มีอาการข้อเท้าหลวมเพียงอย่างเดียว หากพบว่า ยังมีอาการปวดร่วมด้วยต้องคำนึงถึงสาเหตุการบาดเจ็บอื่น ๆ ที่พบร่วมกันได้ อาทิ มีอาการเส้นเอ็นด้านนอกข้อเท้าฉีกขาด , มีรอยแผลที่กระดูกอ่อนในข้อเท้า , การได้รับบาดเจ็บของเส้นประสาทส่วนปลายเท้า กระดูกเท้าและข้อเท้าหัก เป็นต้น หากมีอาการมากขึ้นอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บของเส้นเอ็นนอกข้อเท้า ข้อเท้าเอียงผิดรูป และมีอาการข้อเท้าเสื่อมตามมาได้ ทั้งนี้หลักในการรักษาข้อเท้าหลวมนั้น จำเป็นต้องตระหนักว่า สาเหตุในการเกิดไม่ได้มีสาเหตุมาจากเอ็นข้อเท้ายืดหรือฉีกขาดเพียงอย่าง เดียว มักพบว่ามีปัญหาเส้นประสาทที่ทำหน้าที่ควบคุมการทรงตัวของข้อเท้า ความแข็งแรง และความยืดหยุ่นของเส้นนอกข้อเท้าร่วมด้วย ดังนั้นการรักษาที่จะทำให้ได้ผลดี ต้องคำนึงถึงองค์ประกอบดังกล่าวให้ครบถ้วน โดยทั่วไป สามารถพิจารณาให้การรักษาแบบอนุรักษ์นิยม (Conservotive Tredment) ได้แก่ – การฝึกบริหารเพิ่มความแข็งแรงของเอ็นบริเวณรอบข้อเท้า – การฝึกการควบคุมการทรงตัวของข้อเท้า – การใช้อุปกรณ์เสริม เช่น ที่รัดข้อเท้าทั้งแบบมีแกนด้านข้างและไม่มีแกนด้านข้าง – การใช้ยาเพื่อลดอาการอักเสบ หากการรักษาดังกล่าวไม่ได้ผลในช่วง ระยะเวลา 3 – 6 เดือน จึงพิจารณาให้การรักษาด้วยการผ่าตัดเข้าไปเย็บซ่อมแซมเส้นเอ็นส่วนที่เป็น ปัญหาดังกล่าว ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่า การรักษาข้อเท้าหลวมที่ดีที่สุดก็คือ การป้องกันไม่ให้เกิดและรักษาอาการพลิกตั้งแต่เริ่มแรกได้อย่างเหมาะสม จะช่วยลดปัญหาอาการข้อเท้าหลวมที่เกิดขึ้นได้!!..บทความดีๆหหวังว่าคงเป็นประโยชน์นะคร้าบ!!..คุณปู่เป็นห่วง!!;
-
ทำไรกันอยู่ นอนกันยัง?; -
R9..เท่ไม่เบาเบย!; -
ไก่อะไรมะรู้?..อร่อยดี!!; -
นึกถึงตอนวัยละอ่อนแรกๆเข้าวงการเกือบ20ปีที่แล้ว..เริ่มถ่ายหนังสือดิฉันกะน้องเจมส์มาด้วยกัน!555..เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก!!..สิ้นเดือนนี้น้องมันจะแต่งงานละ!!; -
พร 4 ข้อ โดยพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ใครที่ไม่ได้ไปนั่งฟังการบรรยายธรรมะโดยท่าน ว.วชิรเมธี มีพี่ๆ ที่รู้จักไปนั่งฟังมา ท่านได้ให้พร 4 ข้อ ดังนี้ 1. อย่าเป็นนักจับผิด คน ที่คอยจับผิดคนอื่น แสดงว่า หลงตัวเองว่าเป็นคนดีกว่าคนอื่น ไม่เห็นข้อบกพร่องของตนเอง ""กิเลสฟูท่วมหัว ยังไม่รู้จักตัวอีก"" คนที่ชอบจับผิด จิตใจจะหม่นหมอง ไม่มีโอกาส ""จิตประภัสสร"" ฉะนั้น จงมองคน มองโลกในแง่ดี ""แม้ในสิ่งที่เป็นทุกข์ ถ้ามองเป็น ก็เป็นสุข"" 2. อย่ามัวแต่คิดริษยา ""แข่งกันดี ไม่ดีสักคน ผลัดกันดี ได้ดีทุกคน"" คนเราต้องมีพรหมวิหาร 4 คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา คน ที่เราริษยาเป็นการส่วนตัว มีชื่อว่า ""เจ้ากรรมนายเวร"" ถ้าเขาสุข เราจะทุกข์ ฉะนั้น เราต้องถอดถอนความริษยาออกจากใจเรา เพราะไฟริษยา เป็น ""ไฟสุมขอน"" (ไฟเย็น) เราริษยา 1 คน เราก็มีทุกข์ 1 ก้อนเราสามารถถอดถอนความริษยาออกจากใจเราโดยใช้วิธี ""แผ่เมตตา"" หรือ ซื้อโคมมา แล้วเขียนชื่อคนที่เราริษยา แล้วปล่อยให้ลอยไป 3. อย่าเสียเวลากับความหลัง 90% ของคนที่ทุกข์ เกิดจากการย้ำคิดย้ำทำ ""ปล่อยไม่ลง ปลงไม่เป็น"" มนุษย์ ที่สลัดความหลังไม่ออก เหมือนมนุษย์ที่เดินขึ้นเขาพร้อมแบกเครื่องเคราต่างๆ ไว้ที่หลังขึ้นไปด้วยความทุกข์ที่เกิดขึ้นแล้ว จงปล่อยมันซะ ""อย่าปล่อยให้คมมีดแห่งอดีต มากรีดปัจจุบัน"" ""อยู่กับปัจจุบันให้เป็น"" ให้กายอยู่กับจิต จิตอยู่กับกาย คือมี ""สติ"" กำกับตลอดเวลา 4. อย่าพังเพราะไม่รู้จักพอ "ตัณหา"" ที่มีปัญหา คือ ความโลภ ความอยากที่เกินพอดี เหมือนทะเลไม่เคยอิ่มด้วยน้ำ ไฟไม่เคยอิ่มด้วยเชื้อ ธรรมชาติตของตัณหา คือ ""ยิ่งเติมยิ่งไม่เต็ม"" ทุกอย่างต้องดูคุณค่าที่แท้ ไม่ใช่ คุณค่าเทียม เช่น คุณค่าที่แท้ของนาฬิกา คืออะไร คือ ไว้ดูเวลาไม่ใช่มีไว้ใส่เพื่อความโก้หรู คุณค่าที่แท้ของโทรศัพท์มือถือ คืออะไร คือไว้สื่อสาร แต่องค์ประกอบอื่นๆ ที่เสริมมาไม่ใช่คุณค่าที่แท้ของโทรศัพท์ เราต้องถามตัวเองว่า ""เกิดมาทำไม"" ""คุณค่าที่แท้จริงของการเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ตรงไหน"" ตามหา ""แก่น"" ของชีวิตให้เจอ ""คำว่า ""พอดี"" คือ ถ้า ""พอ"" แล้วจะ ""ดี"" รู้จัก ""พอ"" จะมีชีวิตอย่างมีความสุข"..นะจ๊ะจะบอกให้!!;
Instagram is a registered trademark of Instagram, inc.