โพสต์เมื่อ 7 พ.ค. 2558 | 23:22 น.
ฐปนีย์ เอียดศรีไชย
ของ แยม ฐปนีย์
มี 34 คนชอบรูปนี้
-
ฉันอยากไปดูหมู่บ้านของพวกเขามาก แต่ต้องเดินเท้า 4 ชม.และเราต้องไปยังเป้าหมายเมือง Gorkha เรามุ่งหน้าไปเมือง Gorkha ในเวลาเริ่มพลบค่ำ เราแวะส่งข่าวที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ไม่เสียหาย แต่ไม่มีคนพัก บรรยากาศดีนะ ริมน้ำ แต่ภาพผู้ป่วย เด็กน้อยคนนั้นยังติดตาและอยู่ในใจฉัน ฉันภาวนาขอให้เธอปลอดภัย เราส่งงานเสร็จ 1 ชิ้น ก็เดินทางต่อ และต้องหาจุดรายงานอีก 1 จุด ก่อน 4 ทุ่มไทย เมื่อถึงเวลาฉันให้รถจอดบ้านริมถนนหลังหนึ่ง เจอผู้ประสบภัย คู่สามีภรรยา กางเต้นท์ริมถนนบนไหล่เขา ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาปรอยๆ ฉันคุยกับพวกเขา พบว่า บ้านของพวกเขาพังลูกชายเขาเสียชีวิต แม่เขาบาดเจ็บ ภรรยาเกือบตายหากไม่ช่วยไว้ทัน พวกเขายังไม่มีข้าวสารไว้หุงข้าว ไม่มีเงิน เพราะมันกองจมอยู่ใต้ซากบ้าน ฉันทำข่าวเสร็จ จึงแบ่งกล้วย และนันดะ และฉัน ให้เงินนิดกน่อยกับพวกเขา จากนั้นไม่นานเราก็ถึงตัวเมือง Gorkha สภาพตัวเมืองก็เหมือนตัวอำเภอตามต่างจังหวัด มีร้านค้า แต่ไฟถนนมืดสนิท มืดเสียจนน่ากลัว เมือง Gorkha ไม่ต่างจากเมืองร้าง นันดะ ถามหาทางไปโรงแรม Gorkha inn ที่ทราบมาว่าเป็นแห่งเดียวที่เปิด ระหว่างนั้น เราพบผู้คนกลุ่มหนึ่งเดินออกมาจากบ้านไปรวมตัวกัน เสียงดังวุ่นวาย เรารีบลงจากรถไปดูกัน พวกเขากำลังตะลุมบอนชายคนหนึ่ง !!! เกิดอะไรขึ้น !!! หรือเขาจะเป็นโจร !!! นันดะ เข้าไปดูบอกว่า พวกเขาเข้าใจผิดคิดว่าชายคนนี่จะขโมยของ แต่จริงๆ เขาเป็น บ้า เข้าไม่มีบ้าน และเสียสติไปเพราะตกใจกับแผ่นดินไหว ผู้คนจึงช่วยกันห้ามไม่ให้คลุ้มคลั่ง และเรียกตำรวจมานำตัวไป นี่คือสภาพผลกระทบทางจิตใจ นี่น่าเห็นใจ เมื่อทุกอย่างสงบ เราไปเชคอินที่โรงแรม นันดะ บอกห้องว่างนะ 3 ห้อง แต่แยมไปดูก่อนไหม เพราะอาคารมันมีร้าวเพราะแผ่นดินไหวนะ จะนอนไหม ฉันไปดูสภาพแต่ละห้องยังมีสิ่งของตกหล่นตามพื้น แต่ด้วยเวลาที่ดึกมาก และพรุ่งนี้เราต้องเข้าพื้นที่ในเขา คืนนี้ขอให้ทุกคนได้นอนสิ่งที่เรียกว่า ห้อง และเตียง ก็พอ และในโรงแรมนี้มีฝรั่งพักหลายห้อง ยังไงเสีย โรงแรมนี้ผ่านแรงสั่น 7.9 มาได้ เจออีกหน่อยคงไม่เป็นไร เราจึงนอนที่นี่ในคืนแรก #ติดตามต่อ ตอนที่ 2 (ได้เวลาลุกไปทำงานแล้ว แล้วจะทยอยเขียนมาเล่าให้ฟังนะคะ ไม่ได้อยากเล่าเรื่องความลำบาก เพราะไม่ได้ลำบากอะไร แต่อยากให้ทุกคนได้รู้ว่า ถ้าหากบ้านเราเจอสภาพแผ่นดินไหวแบบนี้ จะเกิดอะไรขึ้นกับเราบ้าง) ฐปณีย์ เอียดศรีไชย 6-05-2015; -
ในโรงพยาบาลเมือง Dhading ที่พังเสียหาย ฉันเห็นเต้นท์ทีมแพทย์ ตั้งโต๊ะเล็กๆรักษาผู้ป่วย ขณะที่เตียงคนไข้ ผู้ป่วย นอนอยู่กับพื้นดิน ฉันเจอผู้ป่วยนอนเรียงรายไม่ค่ำกว่า 10 คน ในสภาพเสื้อผ้ามองแมม บางรายเข้าเฝือก นอนให้น้ำเกลือ ในสภาพที่มีแมลงวันตอม เป็นภาพที่เศร้าใจนัก ฉันถามหมอว่า เกิดอะไรขึ้น หมอบอกผู้ป่วยเหล่านี้ อยู่บนหมู่บ้านบนเขา ฮ เพิ่งไปรับตัวมารักษา ผ่านมา 7 วันไม่มีใครเข้าถึง เพราะต้องเดินเท้า 4 ชม. ต้องใช้ ฮ ลำเลียง และกำลังช่วยมาอีก 7 คน ทันใดนั้นรถพยาบาลก็มาจอด ทุกคนช่วยกันนำตัวผู้ประสบภัยลงมาจากรถ ช่วยกันวางตามเตียงบนพื้นดิน ช่วยกันทำแผลกันสดๆ ช่วยกันฉีดยาให้เด็กน้อย ที่แขนหัก เด็กน้อยร้องด้วยความเจ็บปวด ฉันทำข่าวภัยพิบัติมาเยอะ เจอภาพแบบนี้มาก็เยอะ แต่ครั้งนี้เศร้าใจเพราะ พวกเขาทนความเจ็บปวดอยู่ได้อย่างไร นานถึง 7 วัน !!!!; -
เรามุ่งหน้าไปเมือง Dhading ถนนเลนเดียว รถวิ่งสวนกันน่าตื่นเต้นดี ระหว่างทาง ฉันจึงเลือกไปเมือง Gorkha เพราะอยู่ไกลจากกรุงกาฐมาณฑุกว่า 150 กม. จริงๆระยะทางแค่นี้ ไม่ได้ไกลมาก ถ้าเป็นเมืองไทยคงใช้เวลาไม่นาน แต่ถนนในเนปาล วิ่งไปตามไหล่เขา และมีเพียง 2 เลน บางช่วงวิ่งได้เลนเดียวด้วยซ้ำ ระหว่างเส้นทางผ่านทุกหมู่บ้าน พบแต่บ้านพังเสียหาย ส่วนใหญ่เป็นบ้านหลังเล็กๆ ตามชนบท ที่ทำนา ปลูกข้าว แต่ไม่นานเราถึงตัวเมือง Dhading ซึ่งเป็นตัวเมืองที่มีอาคารสูง เรียกง่ายว่า ตลาดในตัวอำเภอนั่นเอง ที่นี่บ้านตึกใหม่ไม่พังเสียหายมากนัก แต่หลังเล็กพังหมด ขณะนั้น ฉันเริ่มเห็นภาพความวุ่นวาย รถกาชาด รถพยาบาล วิ่งผ่านฉันไป ขณะที่บนฟ้า เฮลิวคอปเตอร์บินว่อน ฉันรีบบอกทีมงาน ตามรถพยาบาลนั่นเดี๋ยวนี่เลย และในที่สุด ฉันก็พบกับภาพที่แทบไม่น่าเชื่อว่า นี่คือสถานการณ์ที่ผ่านมา 7 วันแล้ว; -
30-04-2515 ฉัน พี่ไมค์ ช่างภาพ น้องอาร์ม เจ้าหน้าที่ดาวเทียม นันดะ ไกด์ชาวเนปาล และราชัน คนขับรถ รวม 5 คน ออกเดินทางจากตัวเมืองกาฐมาณฑุ ไปกันแบบเรื่อยๆ เพราะต้องแวะทำข่าวส่งทุกช่วงเที่ยง เย็น และ 3 มิติ รถ 1 คัน คน 5 คน ทำข่าวไปเรื่อยตามเส้นทางไปเมือง Gorkha ซึ่งระหว่างทางมีแต่หมู่บ้านที่ประสบภัย ช่วงบ่ายวันแรก ฉันพบหมู่บ้านริมถนน มีผู้ประสบภัยมารอรับสิ่งของบริจาคจำนวนมาก และได้เวลาส่งข่าวเรื่องเด่นเย็นนี้ นี่เป็นวันแรกที่พวกเขาได้รับสิ่งของช่วยเหลือ หลังแผ่นดินไหวมา 7 วัน บางคนเดินลงจากเขามา 3 ชม.มารอรับอาหาร ผู้ประสบภัยคนหนึ่งพาฉันไปดูบ้าน ที่พบว่า พังทุกหลัง บ้านของพวกเขาทำจากหินและดิน แต่ถ้าในสภาพปกติก็แข็งแรงและอาศัยอยู่ได้ และแน่นอนว่าลักษณะแบบนี้ ไม่สามารถทนแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวได้แน่ๆ ฉันเริ่มเข้าใจลักษณะสภาพภูมิประเทศ สภาพความเป็นอยู่ของชาวเนปาล ทั้งประเทศคือภูเขา เพียงแต่อยู่ต่ำสูงแตกต่างกันไปเท่านั้น ระหว่างพักทานข้าว เราพบทีมอาสาสมัครจากจีน เลยสอบถามได้ความว่าจะไปเมือง Dhading ห่างจากนี่ 1 ชม. ฉันบอก นันดะ ก่อนไป Gorkha ฉันขอไปเมืองนี้ก่อน เพราะคำนวณจากเวลาเราต้องหาข่าวออก ข่าว 3 มิติ ก่อนค่ำ; -
#หลงรักเมืองนักรบ Gorkha Nepal ตอนที่ 1 4 วันกับการเดินทางไปเมือง Gorkha จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวเนปาล เป็นอีกหนึ่งความทรงจำ การทำข่าวแผ่นดินไหวเนปาลครั้งนี้ มีพื้นที่เสียหายจำนวนมาก ไปเมืองไหนก็มีข่าวให้รายงาน แต่ฉันตั้งใจจะไปเมือง Gorkha ไม่ใช่เพราะตัวเลขผู้เสียชีวิต หรือความเสียหาย ซึ่งผู้เสียชีวิตกว่า 200 คน น้อยกว่ากาฐมาณฑุ ที่สูงกว่า1,000 คนแต่เมืองนี้มีหลายประเด็นให้น่าหาคำตอบ ทั้งในแง่การเป็นศูนย์กลางแผ่นดินไหว ที่น่าเรียนรู้ว่า ความรุนแรง 7.9 แมกนิจูด ที่ส่งผลให้เนปาลได้รับความเสียหายกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศ และมีผู้เสียชีวิตกว่า 7,000 คนนั้น พื้นที่ศูนย์กลาง มีลักษณะอย่างไร เจอสภาพอย่างไร หลังต้องใช้เวลาเดินทางจากไทยมาเนปาล ยาวนานถึง 26 ชม.จากวันจันทร์มาถึงวันอังคารเพราะปัญหาการลงจอดที่สนามบินกาฐมาณฑุ ฉันและ พี่กรุณา บัวคำศรี ติดตามความคืบหน้าในเมืองกาฐมาณฑุ ระหว่างนั้นหากไปนอกเมืองเราต้องหารถโฟรวิล เพราะรถตู้หรือรถเก๋งไปไม่ได้ เนื่องจากดินสไลด์ การหารถโฟรวิล จึงเหมือนหาทอง เพราะยากมาก กว่าจะหารถได้ก็เช้าบ่ายวันพฤหัสบดี เมื่อรถพร้อม อุปกรณ์พร้อม ทั้งเต้นท์สนาม เครื่องครัว ที่พี่กรุณาส่งมอบให้ ^^ เสบียงที่ทีมข่าว 3 มิติส่งมาให้ และอุปกรณ์สื่อสารสำหรับการส่งข่าวในภาวะวิกฤต ที่ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีสัญญานเนต การเดินทางจึงเริ่มต้นขึ้น;
-
UNHCR เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยชาวเนปาลในพื้นที่ห่างไกล เร่งมอบเต้นท์และตะเกียงพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งยังต้องการอีกจำนวนมาก พื้นที่ 3 จังหวัดเขตเทือกเขาตะวันออกของเมืองราเมชฮับ เมืองโอขาลทุงงา เมืองสินธุลีที่ถูกแผ่นดินไหวอย่างหนัก และยังไม่มีใครเข้าถึง และความคืบหน้าการทำงานของ UNHCR ซึ่งเป็นหน่วยงานเดียวที่ทำงานในพื้นที่ตอนนี้ ตอนนี้เจ้าหน้าที่UNHCR 108 คนทำงานตลอดเวลาเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย และได้แจกจ่ายสิ่งของบรรเทาทุกข์ในคลังที่เมืองดามัคจนหมด ซึ่งคือผ้าพลาสติกเอนกประสงค์เพื่อช่วยเป็นที่พักพิงชั่วคราว 11,000 ผืน และตะเกียงพลังงานแสงอาทิตย์จะช่วยให้แสงสว่าง และเป็นอุปกรณ์ชาร์จไฟสำหรับมือถือเพื่อช่วยให้ครอบครัวผู้รอดชีวิตได้ติดต่อสื่อสาร และตามหาผู้สูญหาย 4,000 ชุด ซึ่งสำคัญมากที่สุดในตอนนี้ และจะบรรเทาทุกข์ให้ผู้รอดชีวิตได้กว่า 40,000 คน และกำลังส่งความช่วยเหลือเพิ่มเติมมาจากคลังที่ประเทศดูไบเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้รอดชีวิตเพิ่มเติมอีก 30,000 คน UNHCR ยืนยันจะให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างสุดความสามารถ และขอความช่วยเหลือจากทุกๆท่านในการมอบความช่วยเหลือที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อชีวิตผู้ประสบภัยในครั้งนี้ คนไทยสามารถบริจาคช่วยชาวเนปาลผ่านช่องทางของ UNHCR ได้นะคะ; -
ถ้าไม่เจอสถานการณ์แบบนี้เขาว่ามาไม่ถึงเนปาล ชิมิ 555 ยางแตก !!! ขับอยู่ในป่า 4 วัน ถนนเป็นหินไม่เป็นไร พอเจอถนนลาดยาง มาแตกซะงั้น พี่ต้องถึง กาฐมาณฑุ นะ ไม่งั้นทำงานไม่ทัน !!!; -
ถ้าไม่เจอสถานการณ์แบบนี้เขาว่ามาไม่ถึงเนปาล ชิมิ 555 ยางแตก !!! ขับอยู่ในป่า 4 วัน ถนนเป็นหินไม่เป็นไร พอเจอถนนลาดยาง มาแตกซะงั้น พี่ต้องถึง กาฐมาณฑุ นะ ไม่งั้นทำงานไม่ทัน !!!; -
5.00 น.เวลาเนปาล วันที่ 4 พ.ค. มีเสียงฝรั่งเรียกให้ตื่น wake up please !!!.Helicopter will landing at here!!!! ฉันรีบออกจากเต้นท์ เจอหนุ่มเยอรมันบอกว่า มีผู้ป่วย เขาต้องใช้พื้นที่นี้ให้ เฮลิคอปเตอร์ มารับผู้ป่วย ฉัน รีบบอกทีมงาน รีบเก็บเต้นท์ ก่อนจะเดินไปถามทีมแพทย์ ที่ตั้งแคมป์ใกล้กัน ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาบอกมี ผู้ประสบภัย เป็นหญิงตั้งครรภ์ แต่น่าเศร้าที่เด็กในท้องเสียชีวิตแล้ว พวกเขาต้องส่งตัวเธอไปโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน เขาได้ประสาน ฮ ไปแล้ว ฉันรีบวิ่งไปบอกทีมงานให้เก็บทุกสิ่งโดยเร็วที่สุด ก่อนจะกลับมาหาทีมแพทย์อีกครั้งว่า ทุกอย่างพร้อมแล้ว ให้ช่วยอะไรไหม เบลล่า หัวหน้าทีมบอกว่า ถ้าเป็นไปได้ขอให้เราเตรียมรถให้ได้ไหม ถ้า ฮ ไม่มา ขอให้เราไปส่งหญิงตั้งครรภ์ในโรงพยาบาลเมือง Gotkha ฉันบอกว่า ได้เลย และทุกอย่างพร้อมภายใน 5 นาที ระหว่างนั้น เบลล่าและทีมงานยังประสาน ฮ อย่างต่อเนื่องแต่เวลาผ่านไป 4 ชม ฮ ประเทศอินเดีย ทีมแพทย์สิงคโปร์ ทหารเนปาล เดินทางถึงพื้นที่ นำตัวสาวน้อย วัย 22 ปี ชาวหมู่บ้าน Shapuni ขึ้น ฮ ท่ามกลางเสียงร้อง ร่ำไห้ ของ แม่ ยาย สามีและคนในครอบครัว ที่ต่างเป็นห่วงชะตากรรมของสาวน้อย และเสียใจกับโชคชะตาของเด็กน้อยอายุ 10 เดือนที่ไม่สามารถลืมตาดูโลกนี้ได้ "หมู่บ้านของเราอยู่บนยอดเขา บ้านทุกหลังพังเสียหาย มีคนตาย 13 คน พวกเราทุกคนปลอดภัย เพราะในวันเกิดเหตุเราพากันวิ่งมาอยู่กลางแจ้ง รวมถึงลูกสาวที่ท้องแก่" แม่ของสาวน้อยบอกฉัน 16.00 น.วันที่ 3 พ.ค. เธอเริ่มปวดท้อง พวกเขาพยายามช่วยกันจะทำคลอด แต่เด็กไม่คลอด บนเขาไม้มีหมอ ถนนถูกตัดขาดเพราะดินสไลด์ พวกเราต้องเดินเท้า ช่วยกันแบกสาวน้อยลงจากเขา มาถึงแคมป์ทีมแพทย์เวลา 4.00 น. เบลล่า หัวหน้าทีม Karmaflights.org บอกว่าพวกเขาเป็นทีมแพทย์อาสาจากหลายชาติ ในวันเกิดเหตุพวกเขาอยู่เมือง Phokara จึงรีบเข้าพื้นที่ มาถึงกลางหุบเขานี้ทีมแรก เมื่อวันจันทร์ที่ 27 เม.ย. 10 วันที่ผ่านมา ทีมของเธอที่มีแพทย์ 2 คน และทีมงานจากหลายชาติ ได้เดินเท้าไปยังหมู่บ้านต่างๆ พบว่าทุกหมู่บ้านพังเสียหาย นอกจากอาหาร เต้นท์เพื่อสร้างที่พักชั่วคราวแล้ว สิ่งสำคัญคือ กำลังใจเพราะผู้ประสบภัยเหล่านี้ กำลังเผชิญกับการสูญเสีย เบลล่า ยอมรับว่า กรณีหญิงตั้งครรภ์ 10 เดือน เป็นตัวอย่างของผลกระทบจากแผ่นดินไหว ผู้ประสบภัยในหมูาบ้านบนยอดเขา ไม่มีบ้าน ไม่มีเงิน ไม่มีช่องทางการสื่อสาร พวกเขาต้องเดินเท้าจากยอดเขา โชคดีที่มีทีมแพทย์ของเธอ มาตั้งแคมป์ที่นี่ เป็นเรื่องน่าเสียใจที่ต้องสูญเสียเด็กในท้อง แต่เราได้รักษาชีวิตแม่ของเด็กไว้ได้ #R.I.P.; -
5.00 น.เวลาเนปาล วันที่ 4 พ.ค. มีเสียงฝรั่งเรียกให้ตื่น wake up please !!!.Helicopter will landing at here!!!! ฉันรีบออกจากเต้นท์ เจอหนุ่มเยอรมันบอกว่า มีผู้ป่วย เขาต้องใช้พื้นที่นี้ให้ เฮลิคอปเตอร์ มารับผู้ป่วย ฉัน รีบบอกทีมงาน รีบเก็บเต้นท์ ก่อนจะเดินไปถามทีมแพทย์ ที่ตั้งแคมป์ใกล้กัน ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาบอกมี ผู้ประสบภัย เป็นหญิงตั้งครรภ์ แต่น่าเศร้าที่เด็กในท้องเสียชีวิตแล้ว พวกเขาต้องส่งตัวเธอไปโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน เขาได้ประสาน ฮ ไปแล้ว ฉันรีบวิ่งไปบอกทีมงานให้เก็บทุกสิ่งโดยเร็วที่สุด ก่อนจะกลับมาหาทีมแพทย์อีกครั้งว่า ทุกอย่างพร้อมแล้ว ให้ช่วยอะไรไหม เบลล่า หัวหน้าทีมบอกว่า ถ้าเป็นไปได้ขอให้เราเตรียมรถให้ได้ไหม ถ้า ฮ ไม่มา ขอให้เราไปส่งหญิงตั้งครรภ์ในโรงพยาบาลเมือง Gotkha ฉันบอกว่า ได้เลย และทุกอย่างพร้อมภายใน 5 นาที ระหว่างนั้น เบลล่าและทีมงานยังประสาน ฮ อย่างต่อเนื่องแต่เวลาผ่านไป 4 ชม ฮ ประเทศอินเดีย ทีมแพทย์สิงคโปร์ ทหารเนปาล เดินทางถึงพื้นที่ นำตัวสาวน้อย วัย 22 ปี ชาวหมู่บ้าน Shapuni ขึ้น ฮ ท่ามกลางเสียงร้อง ร่ำไห้ ของ แม่ ยาย สามีและคนในครอบครัว ที่ต่างเป็นห่วงชะตากรรมของสาวน้อย และเสียใจกับโชคชะตาของเด็กน้อยอายุ 10 เดือนที่ไม่สามารถลืมตาดูโลกนี้ได้ "หมู่บ้านของเราอยู่บนยอดเขา บ้านทุกหลังพังเสียหาย มีคนตาย 13 คน พวกเราทุกคนปลอดภัย เพราะในวันเกิดเหตุเราพากันวิ่งมาอยู่กลางแจ้ง รวมถึงลูกสาวที่ท้องแก่" แม่ของสาวน้อยบอกฉัน 16.00 น.วันที่ 3 พ.ค. เธอเริ่มปวดท้อง พวกเขาพยายามช่วยกันจะทำคลอด แต่เด็กไม่คลอด บนเขาไม้มีหมอ ถนนถูกตัดขาดเพราะดินสไลด์ พวกเราต้องเดินเท้า ช่วยกันแบกสาวน้อยลงจากเขา มาถึงแคมป์ทีมแพทย์เวลา 4.00 น. เบลล่า หัวหน้าทีม Karmaflights.org บอกว่าพวกเขาเป็นทีมแพทย์อาสาจากหลายชาติ ในวันเกิดเหตุพวกเขาอยู่เมือง Phokara จึงรีบเข้าพื้นที่ มาถึงกลางหุบเขานี้ทีมแรก เมื่อวันจันทร์ที่ 27 เม.ย. 10 วันที่ผ่านมา ทีมของเธอที่มีแพทย์ 2 คน และทีมงานจากหลายชาติ ได้เดินเท้าไปยังหมู่บ้านต่างๆ พบว่าทุกหมู่บ้านพังเสียหาย นอกจากอาหาร เต้นท์เพื่อสร้างที่พักชั่วคราวแล้ว สิ่งสำคัญคือ กำลังใจเพราะผู้ประสบภัยเหล่านี้ กำลังเผชิญกับการสูญเสีย เบลล่า ยอมรับว่า กรณีหญิงตั้งครรภ์ 10 เดือน เป็นตัวอย่างของผลกระทบจากแผ่นดินไหว ผู้ประสบภัยในหมูาบ้านบนยอดเขา ไม่มีบ้าน ไม่มีเงิน ไม่มีช่องทางการสื่อสาร พวกเขาต้องเดินเท้าจากยอดเขา โชคดีที่มีทีมแพทย์ของเธอ มาตั้งแคมป์ที่นี่ เป็นเรื่องน่าเสียใจที่ต้องสูญเสียเด็กในท้อง แต่เราได้รักษาชีวิตแม่ของเด็กไว้ได้ #R.I.P.;
-
^_^ รอยยิ้มนักสู้กรูข่า Gorkha เมืองนักรบของเนปาล รอยยิ้มจากผู้ประสบภัย พวกเขาเดินเท้าไปกลับ 12 ชั่วโมงเพื่อมารับของบริจาค เพราะถนนถูกตัดขาด บ้านพังเสียหาย ไร้ที่อยู่อาศัยแต่พวกเขายังยิ้มสู้ #Smile from Nepal; -
^_^ รอยยิ้มนักสู้กรูข่า Gorkha เมืองนักรบของเนปาล รอยยิ้มจากผู้ประสบภัย พวกเขาเดินเท้าไปกลับ 12 ชั่วโมงเพื่อมารับของบริจาค เพราะถนนถูกตัดขาด บ้านพังเสียหาย ไร้ที่อยู่อาศัยแต่พวกเขายังยิ้มสู้ #Smile from Nepal; -
ล่าสุดทีมแพทย์ Karmaflights.org แจ้งว่า ผู้ประสบภัยที่เป็นหญิงตั้งครรภ์ได้รับการผ่าตัดแล้ว แม่ปลอดภัย ส่วนเด็กเสียชีวิต#R.I.P; -
เฮลิคอปเตอร์และทีมแพทย์นานาชาติมารับผู้ประสบภัยที่เป็นหญิงตั้งครรภ์ในเมือง Gorkha แล้ว ขอให้เธอปลอดภัย; -
ช่วยกันภาวนาขอให้แม่และเด็กปลอดภัย ตอนนี้ฮ ยังมาไม่ถึง ตอนแรกทีมแพทย์ขอความช่วยเหลือรถของทีมข่าว แยมและทีมเตรียมรถแล้ว หาก ฮ ไม่มาจะเอารถของพวกเราไปส่งโรงพยาบาล นี่รอมา 4 ชม.แล้ว แพทย์เริ่มเป็นห่วงอาการของแม่ ส่วนเด็กนั้นเป็นเรื่องน่าเศร้าที่คาดว่าจะเสียชีวิตแล้วเพราะพวกเขาใช้เวลาถึง 12 ชม.เดินลงจากเขากว่าจะถึงมือแพทย์#Pray For Nepal;
Instagram is a registered trademark of Instagram, inc.
