อินทิรา เจริญปุระ
This is my truth, Tell me yours...
ของ ทราย เจริญปุระ
มี 768 คนชอบรูปนี้
-
อยากจะยื่นมือไปแอบจกมากิน | ชีสเค้กมะม่วงสุก | มะม่วงหวานๆเย็นๆฉ่ำใจกับชีสเค้กเข้มข้นมารออยู่ที่ Coffee•Treeแล้วจ้า~; -
มอง cr : @seoulkskay; -
ก็กินข้าวกองธรรมดาน่ะนะ | อุฮิๆ #พริ้งคนเริงเมือง; -
ติดอยู่ตรงที่คืนบัตรมา10นาที มองคุณยุภารัตน์ที่นั่งประจำตู้จนเค้าอายละ นานกว่านี้คงขอเบอร์กัน; -
บรู้มมมมมม~ | หายหน้าไปนาน | วันนี้มาแล้วจ้ะกับเค้กมะพร้าวอ่อนที่หลายคนติดใจ | เสริมทัพด้วยชอคโกแลตมูสนะคะ | มาหากันได้ที่Coffee•Treeจ้า ^^;
-
พรุ่งนี้ได้เข้าเมือง :) จากที่รีวิวถึงหนังสือที่มีคุณค่ากับเรามากๆในช่วงเวลานี้ อย่างBeing Mortalไว้ ทางทีมงานมาเห็นเข้าเลยให้เกียรติเชิญเราไปร่วมพูดคุยถึงหนังสือเล่มนี้ด้วย ขอบคุณทางopen worldด้วยนะคะ ใครว่างๆไปเจอกันได้ | รายละเอียดตามภาพค่ะ ^^; -
"เขาถูกแกล้งเพราะเขาไม่เหมือนพวกนั้น เขาเล่นกีฬาไม่เก่ง เขาไม่ชอบเล่นตำรวจจับผู้ร้าย เขามีความเป็นศิลปิน มีความคิดสร้างสรรค์และช่างคิด และเด็กคนอื่นๆก็ชอบล้อเขาเรื่องนั้น ....... ดิฉันบอกเขาว่าเขาเป็นเด็กน่าทึ่ง มีเมตตากรุณา ใจดี และฉลาด ทุกอย่างที่เราอยากให้ผู้ใหญ่เป็น ดิฉันรู้ว่าคุณสมบัติทุกอย่างที่เขาถูกล้อตอนอายุห้าขวบ จะเป็นผลดีต่อเขาเมื่ออายุ35...แต่ดิฉันไม่สามารถพาเขาไปถึงที่นั่นได้ในชั่วข้ามคืน เราไม่สามารถเร่งความเร็วชีวิตของลูกเรา ไม่ว่าจะอยากทำอย่างนั้นแค่ไหนก็ตาม" เคยเขียนถึงเล่มนี้ลงคอลัมน์สมัยยังไม่มีหลาน ตอนนี้มีหลานแล้วและเพิ่งได้อ่านข่าวการกลั่นแกล้งน้องที่เป็นเด็กพิเศษ เลยคิดถึงเล่มนี้ขึ้นมาอีกรอบ '19นาที'เป็นหนังสือหนาเกือบ700หน้า ที่ประเด็นของเรื่องอยู่ที่การเกิดเหตุกราดยิงในโรงเรียนซึ่งใช้เวลาไป19นาที แต่ส่งผลต่อผู้เกี่ยวข้องอย่างมหาศาล ทั้งพ่อแม่ของเด็กผู้ก่อเหตุ พ่อแม่ของผู้ตาย ผู้พิพากษา ตำรวจ และสังคมในเมืองเล็กๆที่เกิดเหตุนี้ ผู้ก่อเหตุเป็นเด็กที่โดนกลั่นแกล้งมาตลอด เราอาจจะรู้สึกว่าแล้วไง คนเยอะแยะที่โดนแกล้งสมัยเด็กๆแล้วก็เอาตัวรอดผ่านมันมาได้ แต่คำว่า'รอดมาได้'ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีร่องรอยเสียหายทิ้งไว้ในจิตใจ พอมีหลานแล้วกลัวจัง กลัวหลานโดนแกล้ง กลัวหลานไปแกล้งเขา เรารู้สึกกับย่อหน้าที่ยกมาขึ้นต้นนี่มากๆ นิสัยที่แสนจะไม่ป๊อปตอนเด็กๆมันช่วยให้เราสงบสุขได้ในตอนโตจริงๆนะ (นี่อ้างจากชีวิตตัวเองที่ชอบอ่านหนังสือตั้งแต่เด็กเลย) แต่เราก็กลัวอยู่ดี วัยเด็กและวัยรุ่นนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เล่มนี้พิมพ์มาเมื่อตอนปี'51 ผู้เขียนมีผลงานแปลไทยอีกเล่มคือ'บริสุทธิ์อยุติธรรม' ซึ่งเราชอบเหมือนกัน เป็นเรื่องราวสีเทาๆเหมือน19นาที ที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวที่มีลูกชายเป็นแอสเพอเกอร์ซินโดรม #การรีวิวหนังสือคืองานอันโดดเดี่ยว; -
เพิ่งเสร็จใหม่ๆ | ชอคโกแลตมูสสสสสสสส~ | รออยู่ที่Coffee•Tree นะ; -
ผลการพบแพทย์ | ความแม่ | ความอ้อนลูก 5555; -
สัปดาห์แห่งการพาแม่ทัวร์โรง'บาล | วันละแผนก | ออกสตาร์ทที่งานกระดูก | เริ่มค่ะ!;
-
Sweet Holiday | หนูคือครัมเบิลพีชพาย | หน้าตาหนูแปลกเพราะไส้อันอวบอิ่มล้นทะลัก | หนูไม่ใช่พีชกระป๋องนะ!! | หนูคือพีชสดผัดกับซินนาม่อนและออลสไปซ์ | แป้งพายและครัมเบิลเป็นแป้งผสมอัลมอนด์ ได้รสและสัมผัสที่แตกต่างจากเดิม | นอกจากพีชพายแล้วยังมีขนมปังมันม่วงที่เอามาทำเป็นโทสต์และขนมปังเย็น | มาลองกันเร้ววววววว; -
จนX Menเข้า เราเพิ่งได้ดูศรีวิลล์วอร์; -
รับร้อน~ | เมนูปั่นๆปังๆของเรา | ขนมปังเป็นขนมปังมันญี่ปุ่นสีม่วงที่ให้รสหวานแบบธรรมชาติ เอามาอบให้ผิวนอกกรอบนิดๆรวมกับเครื่องดื่มปั่นแบบวาไรตี้ ทั้งชาเขียว ชาไทย ชาพม่า โกโก้ และกาแฟ | มาลองกันๆ :)); -
ข้าวกองไงจะใครล่ะ~; -
หนังสือ'ตาย-เป็น'พูดถึงความแก่ชราและความเจ็บป่วยในยุคที่การแพทย์แข็งแกร่งจนทำให้ค่าเฉลี่ยอายุของมนุษย์ยืดยาวขึ้นเป็นอันมาก การแพทย์ที่พยายามต่อสู้ขัดขืนสิ่งที่เป็นความจริงแท้ของชีวิตอย่างความเจ็บไข้และความตายอันหลีกเลี่ยงไม่พ้น จนเหมือนจะละเลยเพิกเฉยแง่มุมอื่นๆของชีวิต มุ่งมั่นที่จะทำการรักษาโรคภัยไข้เจ็บจนลืมไปว่าคุณภาพชีวิตและจิตใจของผู้ป่วย(บางทีก็ให้ค่ากับความต้องการของผู้ป่วยน้อยกว่าความต้องการของญาติผู้ป่วยด้วยซ้ำไป)นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับการยังหายใจได้ผ่านอุปกรณ์ต่างๆ แต่เป็นการได้ใช้ชีวิตและมีความสุข มีศักดิ์ศรีอย่างที่ความเป็นมนุษย์สมควรได้รับ การแพทย์ที่ช่วยต่อลมหายใจได้ แต่กลับทำร้าย-ทำลายทั้งร่างกายและจิตใจของคนจำนวนมากจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต ผู้เขียนเป็นศัลยแพทย์ที่เผชิญทั้งการตัดสินใจเรื่องความเป็นความตายทั้งของคนไข้และคนใกล้ชิด จึงเริ่มทำการสำรวจและศึกษา เพื่อค้นพบว่า แท้จริงแล้วยังมีหนทางของการแพทย์ที่อ่อนโยนมากกว่านั้น เพื่อช่วยให้มนุษย์ได้มีชีวิต และได้ตายโดยเปี่ยมคุณค่าและความหมาย การมีลมหายใจบนเตียงในโรงพยาบาล ให้อาหารผ่านท่อโดยประคองอาการไว้ อาจไม่มีค่าเท่าการได้กินไอศครีมรสที่ชอบสักคำสองคำ และเผชิญกับความเป็นจริงของโรคร้ายว่ามันไม่มีทางหาย และถึงแม้จะหาย เราก็อาจกลายสภาพเป็นอะไรที่เราไม่ต้องการ อ่านไปแล้วฉันก็คิดถึงแม่ จากสถานภาพที่เคยสั่งการลูกได้ เป็นผู้ควบคุม ทำอะไรต่อมิอะไรได้ร้อยสีพันอย่างตามใจปรารถนา แล้วอยู่มาวันหนึ่ง ร่างกายก็เสื่อมถอย สิ่งที่เคยทำได้ค่อยๆน้อยลงเรื่อยๆไปทุกวัน ฉันคิดว่าแม่นั้นรู้เหมือนที่ฉันรู้ ว่าการเกิด แก่ เจ็บ ตายเป็นของธรรมดาโลกที่ไม่มีใครจะหลีกหนีไปได้ แต่การรู้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับการ'ยอมรับ'มันให้ได้นั้นก็ต่างกัน และมันก็กลายเป็นขั้นตอนที่ยากที่สุดทั้งสำหรับฉันและแม่ #การรีวิวหนังสือคืองานอันโดดเดี่ยว;
Instagram is a registered trademark of Instagram, inc.