โพสต์เมื่อ 13 ก.ย. 2556 | 16:29 น.
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
Official Yingluck Shinawatra Instagram account
ของ ยิ่งลักษณ์
มี 0 คนชอบรูปนี้
-
รับฟังข้อมูล ข้อเสนอแนะ และมอบนโยบายแก่คณะกงสุลกิตติมศักดิ์ไทยในอิตาลีที่โรงแรม Starhotels Rosa Grand นครมิลานค่ะ; -
คณะทำงานนายกรัฐมนตรีต้องกราบขอโทษ ในความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในการขึ้นข้อความ ผิดจาก "นครรัฐวาติกัน" เป็น "นครรัฐอิตาลี" โดยที่นายกรัฐมนตรีได้สื่อสารข้อความมาทางกรุงเทพฯอย่างถูกต้อง แต่เป็นความผิดพลาดของคณะทำงาน จึงขออภัยมา ณ ที่นี้; -
ตอนนี้เดินทางถึงนครมิลานมีโอกาสใส่เสื้อที่ตัดมาจากผ้าไหมของศูนย์ศิลปชีพ ที่โดนน้ำท่วมเมื่อปี2554 ทำให้ผ้าสีอื่นตกใส่จนเกิดเป็นลายผ้าแบบใหม่ที่ใส่มาในวันนี้ค่ะ; -
ในการเยือนนครรัฐอิตาลีครั้งนี้ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปา ฟรานซิส รัฐบาลขอแสดงความยินดีต่อความสัมพันธ์ไทย-วาติกันที่มีมาอย่างราบรื่น โดยการเยือนนครรัฐวาติกันครั้งนี้ เป็นการเยือนในรอบ 58 ปีของนายกรัฐมนตรีไทย นับตั้งแต่การเยือนของ จอมพล ป.พิบูลสงคราม ซึ่งเยือนนครรัฐวาติกันครั้งแรกเมื่อปี 2498 โดยความสัมพันธ์ไทย-วาติกันเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา การเข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสครั้งนี้ จึงเป็นการกระชับความสัมพันธ์ไทย-วาติกันที่สืบเนื่องมายาวนานกว่า 390 ปีและเป็นการแสดงถึงความเคารพต่อคริสต์ศาสนานิกายโรมันคาทอลิกที่มีอิทธิพลต่อโลกและมนุษยชาติ ด้วยบทบาทของคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่ส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและช่วยเหลือผู้ไร้ที่อยู่อาศัย ตลอดจนการแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยด้วยค่ะ; -
เข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปา ฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก ณ พระราชวังสมเด็จพระสันตะปาปา ฟรานซิส (His Holiness Pope Francis) ณ นครรัฐวาติกัน ค่ะ;
-
ความสัมพันธ์ของทั้งไทยและอิตาลีดำเนินไปอย่างราบรื่นและในปี พ.ศ. 2561 จะครบรอบ 150 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-อิตาลีค่ะนับเป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ซึ่งเห็นตรงกันว่าจะจัดทำ Road Map เพื่อกำหนดแนวทางการพัฒนาความสัมพันธ์ และความร่วมมือระหว่างกัน ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยปี 2561 ไทยจะเฉลิมฉลองให้เป็นปีของอิตาลี(Italy Year)และในอิตาลีจะเฉลิมฉลองให้เป็นปีของไทย(Thailand Year) ท่านนายกรัฐมนตรีอิตาลียังเห็นว่า 9 ปีที่ห่างหายจากการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างผู้นำ ทำให้เกิดช่องว่างความสัมพันธ์และความร่วมมือ ซึ่งจากนี้ไปจะเร่งฟื้นฟูตาม Road Map นอกจากนี้ยังเห็นร่วมกันในการที่จะร่วมพัฒนา 3 อุตสาหกรรม นั่นคือ อาหาร การออกแบบ และเอสเอ็มอีค่ะ; -
หารือกับนาย Enrico Letta นายกรัฐมนตรีอิตาลี ณ ทำเนียบรัฐบาลอิตาลี ค่ะ; -
ตรวจแถวทหารกองเกียรติยศในพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ โดยมีนาย Enrico Letta นายกรัฐมนตรีอิตาลีให้การต้อนรับ ณ ทำเนียบรัฐบาลอิตาลี กรุงโรมสาธารณรัฐอิตาลี ค่ะ; -
วัตถุประสงค์ในการเยือนสาธารณรัฐอิตาลี (ทีมงาน); -
ขอขอบคุณท่านประธานาธิบดีสมาพันธรัฐสวิสที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นค่ะ และรู้สึกยินดีที่ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสมาพันธรัฐสวิสเป็นไปอย่างราบรื่นทั้งสองฝ่ายต่างยืดถือค่านิยมสากลร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาธิปไตย การเคารพต่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งถือเป็นรากฐานที่สำคัญในความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ในโอกาสนี้ได้เชิญท่านประธานาธิบดีสมาพันธรัฐสวิสมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ พร้อมคณะภาคเอกชนสวิสด้วยค่ะ;
-
ประธานาธิบดีสมาพันธรัฐสวิสจัดพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ ณ เรือนรับรอง Lohn Manor กรุงเบิร์น สมาพันธรัฐสวิส ค่ะ; -
ในวันนี้ มีเหตุผลสำคัญหลายประการต่อการเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนระหว่างไทยกับสวิส เพราะสวิสถือเป็นต้นแบบของความสำเร็จทางเศรษฐกิจ และมีนวัตกรรมและประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจที่กว้างขวาง ทั้งจากการท่องเที่ยว การโรงแรม ตลอดจนภาคการผลิตและการเงิน ซึ่งผลิตภัณฑ์และการบริการของสวิสอยู่ในระดับ World Class ประเทศไทยนั้นมีศักยภาพทางการแข่งขันในหลายภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การบริการ เกษตรกรรม และการผลิต ซึ่งขณะนี้ เรากำลังต่อยอดศักยภาพเหล่านี้ด้วยการเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานทั้งสาธารณูปโภค และการส่งเสริมธรรมาภิบาล เพื่อให้ไทยสามารถสร้างห่วงโซ่มูลค่า ( Value Chain ) ของการผลิตและประสบความสำเร็จในการสร้างการเติบโตที่ทั่วถึง สร้างสรรค์และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จุดแข็งของไทยนี้ได้สร้างประโยชน์ต่อสวิส ในฐานะหุ้นส่วนการค้าที่ใหญ่ที่สุดของไทยในยุโรป อย่างไรก็ดี ไทยและสวิสต้องร่วมกันเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนเพื่อประโยชน์ต่อประเทศและประชาชนของทั้งสองประเทศ; -
เดินทางถึงนครซูริก สมาพันธรัฐสวิส #yingluck arrived in #Zurich; -
นายโคฟี่ อันนัน อดีตเลขาธิการสหประชาชาติ ประธานมูลนิธิโคฟี่ อันนัน เข้าพบหารือที่ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิสค่ะ; -
สิทธิมนุษยชนเป็นหัวใจของประชาธิปไตย และเป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องยึดหลักประชาธิปไตย เราไม่สามารถและต้องไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่ขัดต่อหลักประชาธิปไตย และเราต้องคงไว้ซึ่งการสนับสนุนคุณค่าประชาธิปไตยด้วยการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ในขณะเดียวกัน ประชาธิปไตยไม่ใช่เพียงการชนะการเลือกตั้งด้วยเสียงข้างมาก แต่เป็นการใช้อำนาจในวิถีทางที่เคารพต่อเสียงส่วนน้อย ซึ่งหมายถึงผู้ที่อยู่ในอำนาจต้องไม่ยึดติดกับอำนาจและไม่นำความต้องการของใครคนใดคนหนึ่งยัดเยียดให้กับผู้อื่น ดิฉันเชื่อว่า การดำเนินการของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน และความร่วมมือในการแก้ปัญหาในเรื่องสิทธิมนุษยชนสามารถทำให้รัฐบาลตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนมากขึ้น และจะทำให้อำนาจเป็นของประชาชนเสมอไป ประเทศไทยได้ผ่านความท้าทายในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาหลายทศวรรษ การเดินทางยังคงไม่ราบรื่น แม้แต่ขณะนี้ ดิฉันยังต้องปกป้องประชาธิปไตยจากผู้มีจิตใจที่ไม่เป็นประชาธิปไตย;
Instagram is a registered trademark of Instagram, inc.
